ความสำคัญของการสำรวจพื้นที่ก่อนทำการก่อสร้างอาคาร

 ความสำคัญของการสำรวจพื้นที่ก่อนทำการก่อสร้างอาคาร

     การสำรวจพื้นที่ (Surveying) เป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญมากในการเริ่มต้นโครงการก่อสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็นอาคารขนาดเล็กหรือโครงการขนาดใหญ่ เพราะข้อมูลจากการสำรวจจะถูกนำไปใช้เป็นพื้นฐานในการออกแบบ วางแผน และควบคุมงานก่อสร้างอย่างถูกต้องและปลอดภัย

  1. เพื่อทราบลักษณะภูมิประเทศจริงของพื้นที่

     การสำรวจช่วยให้ทราบถึง ระดับความสูง–ต่ำ ความลาดชัน และลักษณะภูมิประเทศ เช่น เนินดิน ลำคลอง หรือสิ่งกีดขวางในพื้นที่ ข้อมูลเหล่านี้สำคัญต่อการออกแบบฐานราก ระบบระบายน้ำ และการปรับพื้นที่ก่อนเริ่มงานก่อสร้าง


  2. เพื่อใช้ในการออกแบบทางวิศวกรรม

     แบบแปลนของอาคาร ถนน หรือระบบสาธารณูปโภคต้องอ้างอิงจากข้อมูลพิกัดและระดับที่ได้จากการสำรวจ หากไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง อาจทำให้การออกแบบคลาดเคลื่อน ส่งผลให้ก่อสร้างผิดตำแหน่ง หรือเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างได้


  3. เพื่อกำหนดขอบเขตที่ดินอย่างถูกต้อง

     การสำรวจรังวัดแนวเขต (Boundary Survey) ช่วยระบุแนวที่ดินจริงตามโฉนด ป้องกันปัญหาการก่อสร้างรุกล้ำที่ดินผู้อื่น หรือใช้พื้นที่ผิดเขต ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง


  4. เพื่อประเมินความเหมาะสมของพื้นที่ก่อสร้าง

     ข้อมูลจากการสำรวจ เช่น ระดับน้ำใต้ดิน ความลาดเอียง และชนิดของดิน จะช่วยให้วิศวกรสามารถประเมินความมั่นคงของพื้นที่ วางแผนการปรับพื้นที่ และเลือกชนิดของฐานรากที่เหมาะสมได้


  5. เพื่อใช้ควบคุมงานระหว่างการก่อสร้าง

     ในระหว่างการก่อสร้าง จะต้องอาศัยข้อมูลจากการสำรวจเพื่อตรวจสอบว่า อาคารถูกสร้างตามแบบแปลนที่กำหนดไว้หรือไม่ เช่น ระดับพื้น ความตรงของเสา ระยะระหว่างอาคาร เป็นต้น


  6. เพื่อวางแผนโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม

     การสำรวจช่วยให้ทราบตำแหน่งของระบบสาธารณูปโภคเดิม เช่น ท่อระบายน้ำ สายไฟ หรือท่อแก๊ส รวมถึงข้อมูลสิ่งแวดล้อมรอบพื้นที่ เพื่อวางแผนป้องกันผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง

     การสำรวจพื้นที่ก่อนก่อสร้างเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ช่วยให้ การออกแบบแม่นยำ การก่อสร้างปลอดภัย และการใช้ที่ดินเป็นไปตามกฎหมาย การละเลยขั้นตอนนี้อาจทำให้เกิดความผิดพลาด เสียเวลา และเพิ่มค่าใช้จ่ายในภายหลัง