การติดตั้งเป้า Mini Prism สำหรับงานในพื้นที่จำกัด

การติดตั้งเป้า Mini Prism สำหรับงานในพื้นที่จำกัด
เทคนิคใช้งานในพื้นที่แคบ ให้แม่นยำและปลอดภัยที่สุดMini Prism หรือปริซึมขนาดเล็ก เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่างสำรวจเลือกใช้ในงานพื้นที่จำกัด เพราะมีขนาดกะทัดรัดกว่า ปรับตำแหน่งง่ายกว่า และไม่เกะกะพื้นที่ปฏิบัติงานแต่การติดตั้ง Mini Prism ต้องทำอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้ค่าพิกัดที่แม่นยำ โดยเฉพาะในงานโครงสร้างที่ระดับความคลาดเคลื่อนต้องต่ำกว่า 1–5 มม.

เทคนิคการติดตั้ง Mini Prism สำหรับหน้างานแคบแบบเข้าใจง่าย และใช้ได้จริงทันที
1) Mini Prism เหมาะกับงานแบบใด?
Mini Prism ได้เปรียบในงานที่:พื้นที่ตั้งปริซึมแคบหรือมีสิ่งกีดขวาง ต้องการความละเอียดสูง ใช้ในร่องแคบ เช่น โครงสร้างคาน–ผนัง–เสา
ใช้ในงานตั้งตำแหน่งเครื่องจักร (Machine Alignment) งานวัดในอาคารที่ต้องเคลื่อนปริซึมง่าย เพราะขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ทำให้สามารถติดในมุมที่ปริซึมใหญ่เข้าไม่ถึง


2) การเลือกตำแหน่งติดตั้ง Mini Prism ในพื้นที่จำกัด
✔ 1) ติดในตำแหน่งที่กล้องเล็งได้ชัด Mini Prism เล็กมาก หากติดในตำแหน่งที่มองไม่เห็น กล้องจะโฟกัสยากและทำให้ระยะคลาดหลักการเลือก:หลีกเลี่ยงเสาต้นใหญ่ขวาง
หลีกเลี่ยงแสงสะท้อนจากพื้นผิวโลหะให้เห็นปริซึมอย่างน้อย 50–70% ของพื้นที่หน้าเลนส์
✔ 2) เลือกตำแหน่งที่ปลอดภัยจากแรงชนและสิ่งกีดขวาง ในงานอาคาร มักมี นั่งร้าน ท่อไฟฟ้า ท่อประปา โครงเหล็ก ต้องติดปริซึมให้พ้นทางการทำงานของช่างและเครื่องมือ เพื่อไม่ให้หลุดหรือเบี้ยว
✔ 3) หลีกเลี่ยงการติดบนพื้นผิวที่สั่นหรือยุบตัว พื้นผิวที่ ไม่ควรติด Mini Prism เช่น แผ่นยิปซัม พื้นนั่งร้านเหล็ก ผนังบาง เหล็กที่ยังไม่ถูกยึด แผ่นไม้หรือพื้นชั่วคราว เพราะสั่นง่าย ทำให้ค่าพิกัดผิดแม้เล็กน้อยควรติดบนพื้นผิวที่นิ่ง เช่น คอนกรีต เสาเหล็กหลัก คานหลัก ผนังรับแรง

3) เครื่องมือช่วยติดตั้ง Mini Prism ในพื้นที่แคบ 
✔ ฐานปริซึมแบบแม่เหล็ก (Magnetic Base) เหมาะกับงานเหล็ก เช่น งานประกอบคาน/เสาติดง่าย แน่น แต่ต้องตรวจความสะอาดก่อนติด
✔ ฐานปรับองศา (Adjustable Bracket) ใช้ในงานที่ต้องเล็งปริซึมในทิศเฉียงหรือไม่ตั้งฉากกับพื้น
✔ ขาตั้งแบบ Mini Pole หรือ Rod สั้น ใช้ในซอก–มุม–จุดยกระดับต่ำ ที่ขาตั้งปริซึมปกติเข้าไม่ได้
✔ ฐานติดกาวก่อสร้าง (Construction Adhesive Pad)ใช้เฉพาะงานคอนกรีต และควรติดในพื้นที่ที่จะไม่ถูกกระแทก

4) การตั้ง OFFSET ให้ถูกต้องคือหัวใจสำคัญ
Mini Prism ส่วนใหญ่ใช้ค่า OFFSET 0 mm หรือ 17.5 mm หรือ -25 mmช่างสำรวจต้องตรวจให้แน่ชัดก่อนใช้งานหากตั้งผิด เช่น กล้องตั้งค่า -30 แต่ปริซึมจริงคือ 0 mmค่าพิกัดจะคลาด 30 มม. ทันที ซึ่งเป็นความเสียหายระดับใหญ่ในงานโครงสร้างกฎทอง:อ่านค่า OFFSET ที่ปริซึมทุกครั้งก่อนใช้งาน

5) การเล็ง Mini Prism ต้องละเอียดกว่าปกติ
เพราะปริซึมมีขนาดเล็ก กล้องต้องเล็ง “ตรงจุดกลาง” เพื่อให้ค่าระยะถูกต้องเคล็ดลับคือ:ใช้โหมด Fine แทน Tracking ปรับสายตาให้โฟกัสคมชัดเช็กทิศทางแสงไม่ให้เกิด glare ถ่ายภาพหน้าปริซึมเพื่อเช็กตำแหน่งก่อนใช้งานจริง (ถ้ามีกล้องถ่ายภาพในตัว)

6) การติดตั้ง Mini Prism แบบ Fix จุด (ระยะยาว)
หากใช้ Mini Prism เป็นจุดควบคุมภายในอาคารหรือโรงงาน ต้องติดแบบถาวร:
✔ ใช้พุกเหล็ก/สกรูยึด เพื่อไม่ให้ขยับเมื่อมีแรงกระแทก
✔ Check จุดทุกวัน ในพื้นที่แคบ ช่างหรือวัสดุอาจชนปริซึมจนเบี้ยวได้ง่าย
✔ ทำเครื่องหมายว่าเป็น “Control Point” เพื่อให้ทุกทีมระวัง ไม่ไปขยับหรือถอดออก

7) ตัวอย่างงานที่ต้องใช้ Mini Prism ในพื้นที่จำกัด
วัดตำแหน่งคานและเสาในอาคาร
ตั้งศูนย์เครื่องจักร (Alignment Equipment)
ตรวจตำแหน่ง Anchor Bolt
วัดแนวรางลิฟต์
ตรวจโครงเหล็กในพื้นที่อับ
วัดโครงสร้างโรงงานในช่องว่างระหว่างท่อ
งานก่อสร้างใต้สะพาน
งานภายในปล่องลิฟต์หรือปล่องแอร์

สรุป
Mini Prism เป็นอุปกรณ์สำรวจที่เหมาะที่สุดสำหรับงานพื้นที่จำกัด เพราะ:
✔ ติดตั้งง่าย
✔ ใช้ในพื้นที่แคบได้
✔ น้ำหนักเบา
✔ ให้ค่าพิกัดที่แม่นยำ
✔ สามารถปรับทิศเล็งได้หลากหลาย
แต่ต้องติดตั้งอย่างถูกต้อง โดยเลือกพื้นผิวที่นิ่ง ใช้ฐานที่เหมาะสม ตั้ง OFFSET ให้ถูกต้อง และเล็งด้วยโหมดละเอียดเสมอ