Last updated: 8 ธ.ค. 2568 | 6 จำนวนผู้เข้าชม |
ข้อควรระวังการใช้งานกล้องสำรวจในพื้นที่ไฟฟ้าแรงสูง
ในพื้นที่ไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Area) งานสำรวจที่ต้องทำใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) หรือแนวสายส่งแรงสูง (Transmission Line) ถือเป็นงานที่ต้องใช้ “ความระมัดระวังสูงสุด”เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต หรือทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ทันที
ข้อควรระวังสำคัญที่ช่างสำรวจต้องรู้ก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
1) หลีกเลี่ยงการตั้งกล้องใต้สายไฟแรงสูงโดยตรง
แม้กล้องสำรวจไม่ได้ดึงดูดกระแสไฟฟ้าโดยตรง แต่การตั้งกล้องใต้สายไฟแรงสูงจะเสี่ยงต่อ: การเกิด กระแสไฟฟ้ารั่วลงดินแบบไม่สัมผัส (Induced Voltage) ความไม่เสถียรของสัญญาณ EDM เพราะสนามแม่เหล็กแรงสูงอันตรายกรณีสายสลิงหรืออุปกรณ์ตกลงมา ควรตั้งกล้องในพื้นที่ข้างเคียงที่ ไม่อยู่ใต้แนวฉายของสายไฟ เสมอ
2) ขาตั้งกล้องเป็นโลหะ = เสี่ยงนำไฟฟ้า
ขาตั้งและด้ามปรับหลายส่วนเป็นโลหะ ซึ่งนำไฟฟ้า หากเกิดไฟฟ้ารั่วหรือประกายไฟจากสายขาด อาจทำให้กระแสไหลลงสู่ตัวช่างสำรวจได้เพื่อความปลอดภัย:
✔ หลีกเลี่ยงการตั้งกล้องใกล้เสาไฟ/หม้อแปลง
✔ ระวังไม่ให้ขาตั้งแตะโครงสร้างหรือรั้วของสถานีไฟฟ้า
✔ ตั้งกล้องบนพื้นแห้ง ลดความเสี่ยงไฟไหลลงดิน
3) ห้ามใช้ “ไม้สต๊าฟ” ใกล้สายไฟแรงสูง
ไม้สต๊าฟแม้ดูเหมือนเป็นไม้หรือวัสดุสังเคราะห์ แต่บางรุ่นมีส่วนประกอบของอลูมิเนียม ซึ่งอาจนำไฟฟ้าได้ และมีความยาวสูง เสี่ยงเข้าใกล้สายไฟมากเกินไป ถ้าจำเป็นต้องวัดระดับใกล้แนวสายไฟ:
✔ ใช้สต๊าฟไฟเบอร์ หรือวัสดุที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า
✔ ระวังไม่ยกสต๊าฟเกินระดับหัวของตัวเอง
✔ รักษาระยะปลอดภัยขั้นต่ำ 3–10 เมตร (ขึ้นกับแรงดันไฟฟ้า)
4) ระวังสนามแม่เหล็กแรงสูงรบกวนการทำงานของกล้อง
บริเวณใต้สายส่งแรงสูง มักมีสนามแม่เหล็ก (Electromagnetic Field) ที่รบกวน: การวัดระยะของ EDM ความนิ่งของค่ามุม การใช้ GNSS RTK (สัญญาณดาวเทียมเพี้ยน) หากพบว่าค่าที่อ่านไม่คงที่ ให้ย้ายกล้องออกห่างจากแนวสายไฟอย่างน้อย 15–30 เมตร
5) ระวัง “เสียงและแรงสั่น” จากไฟฟ้าแรงสูง
ในวันที่ความชื้นสูง สายไฟแรงสูงอาจมีเสียงแตกตัวของประจุ (corona discharge) หากได้ยินเสียง “ซ่า ๆ” หรือ “ปะ ๆ” ดังผิดปกติ ควรหยุดงานและถอยออกทันที เพราะอาจหมายถึง: ความชื้นสูงจนไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย ฉนวนเสาไฟมีปัญหาสายไฟเสี่ยงขาด
6) ระมัดระวังรถเครน รถเฮี๊ยบ หรือเครื่องจักรในพื้นที่
งานที่มีเครื่องจักรยกของใกล้สายไฟเสี่ยงที่สุด เพราะ: บูมโลหะสามารถรับไฟลงสู่ตัวรถ กล้องอาจถูกชนหรือบูมสวิงเข้ามาใกล้เกิน สายไฟรั่วอาจลงสู่พื้นใกล้กล้องได้ จึงควร:
✔ สื่อสารกับคนขับให้ชัดเจน
✔ ตั้งกล้องห่างจากจุดทำงานของเครนมากกว่า 10 เมตร
✔ ใช้ผู้ช่วยเป็น Spotter เฝ้าดูความปลอดภัย
7) ห้ามตั้งกล้องในพื้นที่เปียก เช่น น้ำขัง โคลน เปียกฝน
พื้นที่เปียกเพิ่มความเสี่ยงให้กระแสไฟไหลลงดินได้ง่าย กล้องและขาตั้งโลหะจะเสี่ยงมากขึ้นหลายเท่า ควร: เลือกพื้นที่แห้ง ใช้ฐานรอง (Plate) วางขาตั้งหากดินนิ่ม หลีกเลี่ยงจุดที่มีน้ำไหลผ่าน แม้จะน้อยก็ตาม
8) พิจารณาใช้ GNSS แทนกล้องรวม (ถ้าปลอดภัยกว่า)
ในบางพื้นที่ เช่น ใต้สายไฟน้อยกว่า 22 kV พื้นที่โล่ง ไม่มีสัญญาณรบกวนมาก GNSS RTK อาจปลอดภัยกว่าเพราะ: ไม่ต้องยกสต๊าฟสูง ไม่ต้องตั้งกล้องโลหะกลางแนวสายไฟ แต่ต้องทดสอบสัญญาณก่อนใช้งานจริง
9) ความปลอดภัยต้องมาก่อนความแม่นยำ
บางจุดที่ตั้งกล้องแม่นที่สุด อาจไม่ใช่จุดที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้นช่างสำรวจควรเลือกจุดที่:
✔ ปลอดภัยที่สุด
✔ ห่างจากสายไฟที่สุด
✔ มีแนวเล็งที่พอใช้งาน
✔ ไม่เสี่ยงไฟรั่วหรือไฟแรงสูง
“งานเร็ว–งานแม่น” ไม่มีค่าเลยหากไม่ปลอดภัย
สรุป: การใช้กล้องสำรวจในพื้นที่ไฟฟ้าแรงสูง ต้องระวังอะไร?
✔ หลีกเลี่ยงตั้งกล้องใต้สายไฟ
✔ ขาตั้งโลหะต้องไม่เข้าใกล้แหล่งไฟฟ้า
✔ ห้ามใช้สต๊าฟโลหะในพื้นที่เสี่ยง
✔ ระวังสนามแม่เหล็กทำให้ค่าพิกัดเพี้ยน
✔ รักษาระยะปลอดภัย 3–10 เมตร
✔ ตรวจสภาพอากาศและเสียงผิดปกติของสายไฟ
✔ มีผู้ช่วยคอยดู (Spotter)
✔ พื้นที่เปียก = อันตรายสูง
“งานสำรวจใกล้ไฟฟ้าแรงสูง ต้องให้ความปลอดภัยมากกว่าความแม่นยำเสมอ” เพราะชีวิตสำคัญที่สุดในทุกไซต์งาน
8 ธ.ค. 2568