Last updated: 24 พ.ย. 2568 | 5 จำนวนผู้เข้าชม |
กล้องสำรวจในงานท่าเรือและแนวชายฝั่ง
เครื่องมือสำคัญของงานที่ต้องการความแม่นยำสูงในพื้นที่ที่สภาพแวดล้อมท้าทาย งานท่าเรือ (Port Construction) และงานแนวชายฝั่ง (Coastal Engineering) เป็นงานก่อสร้างที่มีความซับซ้อนสูง เพราะอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยแรงลม ความชื้นสูง น้ำทะเล การกัดกร่อนจากไอเกลือ และพื้นผิวที่ไม่มั่นคง กล้องสำรวจจึงมีบทบาทสำคัญในการ กำหนดตำแหน่ง ควบคุมระดับ ตรวจสอบแนว และเก็บข้อมูลภูมิประเทศ ให้ถูกต้องที่สุด
บทความนี้สรุปบทบาท วิธีใช้งาน และความท้าทายของ “กล้องสำรวจ” ในงานท่าเรือและแนวชายฝั่ง
1. ทำไมงานท่าเรือและชายฝั่งต้องใช้กล้องสำรวจ?
งานบริเวณน้ำทะเลต้องอาศัยค่าพิกัดและระดับที่ แม่นยำระดับเซนติเมตร หรือดีกว่านั้น เนื่องจากงานมักเกี่ยวกับ:ระดับพื้นซีแวลเลเวล (Sea Level) ระดับน้ำขึ้น–น้ำลง แนวเขื่อนกันคลื่น แนวท่าเทียบเรือ แนวเสาเข็มทะเล การวางตำแหน่งโครงสร้างนอกชายฝั่ง (Offshore Structure) ความลึกของร่องน้ำเดินเรือ การใช้กล้องสำรวจจึงช่วยให้ทุกงานเป็นไปตามแบบและปลอดภัยต่อเรือและผู้ใช้งานในอนาคต
2. กล้องสำรวจประเภทใดที่ใช้ในงานท่าเรือ?
1) Total Station ใช้สำหรับ: กำหนดตำแหน่งจุดวางเสาเข็ม ตรวจแนวโครงสร้างท่าเทียบเรือ ตั้งแนวคานสะพานท่าเรือ ตรวจสอบแนวแกนงานบนโครงสร้างเหล็ก ข้อดี: แม่นยำสูง แม้มีสิ่งรบกวนทางแม่เหล็ก ข้อควรระวัง: ต้องดูแลเลนส์ไม่ให้โดนไอเค็มของน้ำทะเล
2) กล้องระดับ (Auto Level / Digital Level)
ใช้สำหรับ: ตรวจระดับหัวเสาเข็ม ควบคุมระดับพื้นดินก่อนก่อสร้าง คุมระดับโครงสร้างทางเดินริมน้ำ ข้อดี: ทนทาน ใช้งานง่าย ข้อควรระวัง: ต้องระวังลมแรงที่พัดขาตั้งกล้องจนสั่น
3) GNSS RTK (GPS สำรวจ)
ใช้สำหรับ: วัดตำแหน่งแนวชายฝั่ง งาน Mapping ชายหาดตรวจสอบการเคลื่อนตัวของแนวเขื่อนวัดพิกัดในพื้นที่กว้างข้อดี: เก็บพื้นที่รวดเร็วข้อควรระวัง: งานใกล้เรือ,คอนเทนเนอร์สูง หรือโครงเหล็ก อาจเกิดสัญญาณสะท้อน (Multipath)
4) เครื่องมือวัดความลึก / Echo Sounder
ใช้สำหรับ: สำรวจความลึกท่าเรือ สำรวจร่องเดินเรือ ตรวจระดับตะกอน เป็นอุปกรณ์เฉพาะทางในงานชายฝั่งที่ต้องใช้ร่วมกับกล้องสำรวจภาคพื้นดิน
3. ความท้าทายของงานสำรวจบริเวณทะเล
งานท่าเรือแตกต่างจากงานบนบกเพราะมีปัจจัยที่ควบคุมยาก เช่น: ลมแรงลมแรงทำให้ กล้องสั่น และค่ามุมคลาดเคลื่อน ต้องใช้ขาตั้งแข็งแรงและล็อกแน่นทุกครั้ง
ความชื้นสูงและไอเกลือ อุปกรณ์โลหะเสี่ยงต่อการกัดกร่อน ต้อง: เช็ดกล้องหลังใช้งาน หลีกเลี่ยงน้ำทะเลกระเด็น เก็บในกล่องพร้อมซองกันชื้น แสงสะท้อนจากผิวน้ำส่งผลต่อการเล็งเป้าและยิงระยะ ควรใช้: ฉากบังแดด ปริซึมสีเข้ม โหมด Fine เมื่อแสงรบกวนมาก พื้นที่ไม่มั่นคง เช่น ท่าเรือกำลังก่อสร้าง พื้นอาจสั่นเมื่อรถเครนทำงาน ค่ามุมจะไม่นิ่ง
ควรตั้งกล้องบนพื้นที่เสถียรที่สุดเท่าที่ทำได้ หรือวัดซ้ำหลายครั้ง
4. งานที่ต้องใช้กล้องสำรวจโดยตรงในท่าเรือ
งานวางตำแหน่งเสาเข็มทะเล การกำหนดตำแหน่งเสาเข็มบนแพหรือบน pontoon ต้องแม่นยำสูง
งานตั้งแนวโครงสร้างท่าเทียบเรือ ตั้งแนวคานรับเรือ ชานยื่น โครงสร้างรับตู้คอนเทนเนอร์
งานสำรวจความลึก/ความสูงของหัวเข็ม หัวเข็มต้องตรงระดับตามแบบเพื่อรองรับโครงสร้างด้านบน
งานตรวจแนวเขื่อนกันคลื่น แนวต้องตรงและระดับคงที่เพื่อป้องกันการกัดเซาะของคลื่น
งานสร้างสะพานเชื่อมท่าเรือ-คลังสินค้า ต้องวัดทั้งระดับและแกนโครงสร้างละเอียด
งานตรวจสอบการทรุดตัวของพื้นท่าเรือ ใช้กล้องวัดระดับร่วมกับ BM ระยะยาวเพื่อตรวจสอบการทรุดตัวจากตะกอนและน้ำทะเล
5. ข้อควรระวังพิเศษสำหรับงานชายฝั่ง
กล้องต้องล้างด้วยผ้านุ่มทันทีหลังเจอไอเกลือ ห้ามตั้งกล้องในตำแหน่งที่คลื่นอาจซัดถึง อย่าวางกล้องใกล้เครนหรือขอบท่าเรือ พกถุงกันน้ำ ผ้าเช็ดเลนส์ ร่มบังแดดตรวจขาตั้งให้แน่นมากกว่าปกติ หลีกเลี่ยง Reflectorless บนพื้นน้ำ → ให้ใช้ปริซึมแทน
สรุป
กล้องสำรวจเป็นหัวใจสำคัญของงานท่าเรือและแนวชายฝั่ง เพราะช่วยให้ทุกกระบวนการตั้งแต่การวางตำแหน่งเสาเข็มจนถึงการคุมระดับโครงสร้างทำได้อย่างแม่นยำ
แต่การทำงานบริเวณทะเลมีความท้าทายสูง จึงต้องเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม ตั้งค่าให้ถูก และดูแลกล้องเป็นพิเศษ งานชายฝั่งต้องแม่นยำกว่างานบนบก เพราะผิดเพียงไม่กี่เซนติเมตร อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของเรือและโครงสร้างทั้งหมด
24 พ.ย. 2568
21 พ.ย. 2568
21 พ.ย. 2568