การใช้กล้องสำรวจ ในการวัดระยะทางแนวลาดและแนวราบในพื้นที่สูงชัน

Last updated: 28 ต.ค. 2568  |  19 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การใช้กล้องสำรวจ ในการวัดระยะทางแนวลาดและแนวราบในพื้นที่สูงชัน

การวัดระยะทางแนวลาดและแนวราบในพื้นที่สูงชันด้วยกล้องสำรวจ
ในพื้นที่ภูเขา หรือพื้นที่ที่มีความลาดเอียงสูง เช่น ทางลาดดิน เขื่อน ถนนบนภูเขา หรือพื้นที่ขุดดินการวัดระยะทางระหว่างจุดต่าง ๆ จะซับซ้อนกว่าพื้นที่ราบทั่วไปเพราะ “ระยะที่เห็นด้วยตา” (แนวลาด) ไม่เท่ากับ “ระยะที่ใช้ในแผนที่” (แนวราบ)ดังนั้น การใช้ กล้องประมวลผลรวม (Total Station)หรือกล้องวัดมุมที่มีระบบวัดระยะทาง (EDM) จึงจำเป็นมาก เพราะสามารถคำนวณ “ระยะทางแนวราบ” และ “ความต่างระดับ” ได้ในขั้นตอนเดียว


ความแตกต่างระหว่าง “ระยะแนวลาด” และ “ระยะแนวราบ”
ระยะแนวลาด (Slope Distance) ระยะจริงจากกล้องถึงเป้าบนแนวเอียง ใช้เมื่อวัดบนพื้นที่ลาดหรือภูเขา
ระยะแนวราบ (Horizontal Distance) ระยะเมื่อฉายแนวลาดลงมาบนระนาบราบ ใช้สำหรับคำนวณพิกัด X, Y
ตัวอย่าง:ถ้ากล้องยิงไปยังเป้าที่สูงกว่าระดับกล้องระยะลาดที่กล้องวัดได้อาจ 120 เมตร แต่เมื่อคำนวณแนวราบแล้ว อาจเหลือเพียง 118 เมตรเท่านั้น


ขั้นตอนการวัดระยะในพื้นที่สูงชัน
1.เตรียมจุดควบคุม (Control Point)ตั้งหมุดควบคุมบนพื้นที่ราบและมั่นคง เลือกตำแหน่งที่มองเห็นแนวลาดได้ชัดเจน

2.ตั้งกล้องและทำการปรับระดับ ใช้ขาตั้งกล้องที่มั่นคง และปรับฟองกลมให้อยู่กลางตรวจสอบระดับแนวดิ่งทุกครั้ง เพราะพื้นลาดจะทำให้กล้องเอียงง่าย

3.ยิงเป้าหมาย (Prism / Reflective Sheet) เล็งไปยังเป้าที่อยู่บนพื้นที่ลาดชัน หากพื้นที่เข้าถึงยาก ให้ติดแผ่นสะท้อนแทนคนถือเป้า

4.กล้องจะวัดระยะลาด และคำนวณระยะราบให้อัตโนมัติในโหมด EDM กล้องจะส่งลำแสงไปกระทบเป้า ระบบภายในจะคำนวณค่า Horizontal Distance และ Height Difference ทันที

5.ตรวจสอบค่าที่ได้ วัดซ้ำจากมุมมองที่ต่างกัน 5–10° เพื่อยืนยันผล บันทึกค่าพิกัด (X, Y, Z) ของทุกจุด
ตัวอย่างการใช้งานจริง
สำรวจแนวถนนบนภูเขา ใช้ระยะราบในการออกแบบแนวศูนย์กลางถนน
สำรวจเขื่อนหรือทางน้ำบนพื้นที่ลาด ใช้ตรวจสอบความสูงของจุดดินหรือแนวสันเขื่อน
สำรวจงานก่อสร้างบนเนินดิน ใช้วัดระยะระหว่างฐานรากและแนวอาคาร
ตรวจสอบความเคลื่อนตัวของพื้นที่ลาด ใช้วัดระยะเปลี่ยนแปลงของหมุดในช่วงเวลาต่างกัน

เทคนิคเพื่อความแม่นยำ
✅ ใช้โหมด Fine EDM Mode สำหรับพื้นที่ไกลหรือลาดชันมาก
✅ ตั้งค่าคงที่ของปริซึม (Prism Constant) ให้ตรงรุ่น
✅ หลีกเลี่ยงการวัดในช่วงกลางวันแดดจัด เพราะอากาศหักเหแสง
✅ หากต้องการวัดแนวยาว ให้ใช้ “จุดพักกล้อง (Turning Point)” เพื่อควบคุมมุม
✅ ตรวจสอบค่าระยะโดยยิงซ้ำก่อนบันทึก


ข้อควรระวัง
ห้ามตั้งกล้องบนพื้นอ่อนหรือพื้นไม่มั่นคง เพราะจะเกิดการเอียง
ตรวจสอบเส้นเล็งว่าไม่มีสิ่งกีดขวาง เช่น ต้นไม้หรือหิน
หลีกเลี่ยงการใช้คนถือเป้าในจุดลาดอันตราย — ใช้แผ่นสะท้อนแทน
บันทึกค่าความสูงกล้อง (HI) และความสูงเป้า (HR) ทุกครั้ง


 ประโยชน์ของการวัดระยะในพื้นที่สูงชัน
✅ ได้ข้อมูลทั้งระยะราบและความสูงในครั้งเดียว
✅ ลดความเสี่ยงจากการเดินวัดระยะบนพื้นที่อันตราย
✅ ใช้ในการสร้างแบบจำลองภูมิประเทศ (3D Terrain Model)
✅ ประเมินแนวทางถนน เขื่อน หรือโครงสร้างบนพื้นที่ไม่ราบได้แม่นยำ


สรุป
การวัดระยะทางแนวลาดและแนวราบด้วยกล้องสำรวจ
เป็นขั้นตอนสำคัญของงานสำรวจภูมิประเทศในพื้นที่ที่มีความสูงต่างกันมาก
สรุปจำง่าย: กล้องวัด “ระยะจริงตามแนวลาด” กล้องคำนวณ “ระยะราบและระดับ” ให้อัตโนมัติ ได้ข้อมูลพิกัด (X, Y, Z) ที่แม่นยำในครั้งเดียว

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้