การวัดระยะในพื้นที่แคบด้วย Mini Prism (มินิปริซึม)

Last updated: 23 ต.ค. 2568  |  6 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การวัดระยะในพื้นที่แคบด้วย Mini Prism (มินิปริซึม)

 การวัดระยะในพื้นที่แคบด้วย Mini Prism (มินิปริซึม)

     ในการทำงานสำรวจภาคสนาม มักมีหลายสถานการณ์ที่พื้นที่ทำงานจำกัด เช่น บริเวณภายในอาคาร พื้นที่ใต้อาคารจอดรถ หรือบริเวณที่มีสิ่งกีดขวางจำนวนมาก การใช้ปริซึมขนาดใหญ่ในพื้นที่ลักษณะนี้อาจทำได้ยาก และนี่คือเหตุผลที่ “Mini Prism (มินิปริซึม)” เข้ามามีบทบาทสำคัญ

 

Mini Prism คืออะไร ?

     Mini Prism คือปริซึมสะท้อนแสงจากกล้องสำรวจ (เช่น Total Station) ที่มีขนาดเล็กกว่าปริซึมมาตรฐานมาก โดยออกแบบมาให้พกพาสะดวก ติดตั้งง่าย และเหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง

     ขนาดของ Mini Prism โดยทั่วไปจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 17.5 – 25 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กกว่าปริซึมทั่วไปที่มักมีขนาดราว 62 มิลลิเมตร

 

เหตุผลที่ Mini Prism เหมาะกับพื้นที่แคบ

  1. ขนาดกะทัดรัด : สามารถติดตั้งในมุมอับหรือช่องแคบที่ปริซึมขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง
  2. น้ำหนักเบา : สามารถยึดกับโครงเหล็ก ผนัง หรือขาตั้งเล็ก ๆ ได้ง่าย
  3. ศูนย์ปริซึมต่ำ : ทำให้สามารถวัดในระดับต่ำหรือมุมเอียงได้โดยไม่ติดขอบ
  4. ความแม่นยำเพียงพอ : แม้จะเล็ก แต่ยังสามารถสะท้อนลำแสงจากกล้องได้อย่างแม่นยำภายในระยะเหมาะสม


เทคนิคการวัดระยะในพื้นที่แคบด้วย Mini Prism

   1. ใช้ขาตั้งแบบ Mini Pole หรือ Magnetic Base

      สำหรับพื้นที่ที่ไม่มีที่วางขาตั้งกล้อง ใช้ฐานแม่เหล็กหรือเสาเล็กช่วยยึดมินิปริซึมกับพื้นผิว เช่น เสาเหล็กหรือขอบคอนกรีต

   2. ตั้งพริซึมให้ได้ศูนย์พอดีกับแนวกล้อง

      เนื่องจากพื้นที่แคบมักมีข้อจำกัดด้านมุมมอง ควรใช้ เลเซอร์ชี้แนว (Laser Plummet) หรือปรับกล้องให้ศูนย์ตรงปริซึมอย่างละเอียด

   3. ตรวจค่าคงที่ปริซึม (Prism Constant)

      มินิปริซึมแต่ละรุ่นมีค่าคงที่ต่างกัน เช่น -17.5 mm หรือ 0 mm ควรตั้งค่าตรงกับรุ่นเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อน

   4. หลีกเลี่ยงสิ่งสะท้อนอื่นในพื้นที่

      พื้นผิวโลหะหรือกระจกอาจสะท้อนสัญญาณผิดพลาด ควรเลือกมุมที่ไม่มีสิ่งรบกวนทางแสง

   5. ตรวจสอบการมองเห็นของกล้อง (Line of Sight)

      พื้นที่แคบอาจมีสิ่งบังบางส่วน ควรวางมินิปริซึมในตำแหน่งที่กล้องมองเห็นพริซึมเต็มหน้าเพื่อได้สัญญาณแรงที่สุด

 

 ข้อจำกัดที่ควรระวัง

  • ระยะการวัดจำกัด : โดยทั่วไป Mini Prism ใช้ได้ดีในระยะไม่เกิน 100–200 เมตร
  • ไวต่อการเอียง : การเอียงเพียงเล็กน้อยอาจทำให้สัญญาณสะท้อนอ่อนลง
  • ต้องปรับเทียบบ่อย : เนื่องจากขนาดเล็ก อาจเคลื่อนจากแรงลม หรือแรงสั่นสะเทือนได้ง่าย

 

     การใช้ Mini Prism ในพื้นที่แคบช่วยให้งานสำรวจเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับกล้อง Total Station รุ่นที่มีระบบชดเชยมุมหรือการเล็งอัตโนมัติ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวัดอย่างมีประสิทธิภาพ

     ดังนั้น สำหรับช่างสำรวจมืออาชีพ การมีมินิปริซึมติดชุดอุปกรณ์ไว้เสมอ ถือเป็นอีกหนึ่ง “เครื่องมือเล็กที่ให้ผลลัพธ์ใหญ่” ในงานสำรวจจริง

 



ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้