การตั้งค่า EDM ในกล้องสำรวจก่อนการใช้งาน มีประโยชน์อย่างไร?

Last updated: 1 ต.ค. 2568  |  22 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การตั้งค่า EDM ในกล้องสำรวจก่อนการใช้งาน มีประโยชน์อย่างไร?

การตั้งค่าหน้าเป้า และโหมดการยิง EDM ในกล้องสำรวจก่อนการใช้งาน มีประโยชน์อย่างไร?
ก่อนจะเริ่มงานภาคสนาม นักสำรวจจำเป็นต้องตรวจสอบและตั้งค่ากล้องให้เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่อง หน้าเป้า (Prism Constant) และ โหมด EDM (Electronic Distance Measurement) เพราะสองสิ่งนี้มีผลโดยตรงต่อความแม่นยำในการวัดระยะ


1. การตั้งค่าหน้าเป้า (Prism Constant)
- กล้อง Total Station ต้องปรับค่าหน้าเป้าให้ตรงกับชนิดของปริซึมที่ใช้
- แต่ละปริซึมมี “ค่าคงที่” เช่น 0 mm, –30 mm หรือ –40 mm
- ถ้าใส่ค่าผิด → ระยะที่กล้องคำนวณออกมาจะคลาดเคลื่อนทันที

ประโยชน์
- ทำให้ค่าระยะที่ได้ตรงกับความเป็นจริง
- ป้องกันความผิดพลาดสะสมเวลาเก็บพิกัดจำนวนมาก
- ใช้ร่วมกับปริซึมหลายแบบได้ (Mini Prism, Standard Prism)

2. โหมดการยิง EDM (EDM Mode)  EDM คือ ระบบยิงแสงเลเซอร์เพื่อวัดระยะทาง มีหลายโหมด เช่น
- Fine Mode (โหมดละเอียด) → แม่นยำสูง ใช้กับงานที่ต้องการความเป๊ะ
- Tracking Mode (โหมดติดตาม) → กล้องวัดต่อเนื่อง เหมาะกับการเดินสำรวจหรือเก็บรายละเอียดเร็ว ๆ
- Reflectorless Mode (ไร้ปริซึม) → ใช้ยิงวัดวัตถุโดยไม่ต้องใช้ปริซึม เช่น ผนัง, เสา, อาคาร


ประโยชน์
เลือกโหมดให้เหมาะกับสภาพงาน → ทำงานเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาด
- ช่วยให้วัดได้ทั้งใกล้และไกล ทั้งมีปริซึมหรือไม่มีปริซึม
- เพิ่มความยืดหยุ่นในการสำรวจ เช่น ยิงยอดตึก หรือพื้นผิวที่เข้าถึงยาก

3. ทำไมต้องตั้งค่าก่อนเริ่มงาน?
เพื่อให้กล้องคำนวณได้ถูกต้องตั้งแต่แรก
ลดการแก้งานหรือกลับมาสำรวจซ้ำ
สร้างความมั่นใจให้ทั้งช่างสำรวจและวิศวกรผู้ออกแบบว่า ข้อมูลที่เก็บได้ “ตรงจริง”

สรุป
การตั้งค่าหน้าเป้า และโหมด EDM ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็น หัวใจของความแม่นยำ
ตั้งค่าหน้าเป้าให้ตรง = ระยะไม่เพี้ยน
เลือกโหมด EDM ให้เหมาะ = งานเร็วขึ้น ใช้ได้ทุกสภาพหน้างาน
ก่อนออกไซต์งานครั้งต่อไป อย่าลืมเช็กสองสิ่งนี้ให้พร้อม กล้องคุณจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้