Last updated: 17 ก.ย. 2568 | 44 จำนวนผู้เข้าชม |
การใช้ กล้องประมวลผล (Total Station) ในการ วัดพื้นที่ป่า เป็นการผสมผสานระหว่างงานสำรวจภาคสนามกับการประมวลผลข้อมูลเชิงดิจิทัล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ ละเอียด แม่นยำ และนำไปใช้จัดทำแผนที่หรือวิเคราะห์ทรัพยากรป่าไม้
บทบาทของกล้องประมวลผลในงานสำรวจป่า
1. การเก็บพิกัดต้นไม้และจุดสังเกต
- วัดค่าพิกัด (X, Y, Z) ของต้นไม้ใหญ่, แนวเขตป่า, หรือแหล่งน้ำในพื้นที่
- นำไปสร้างแผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ไม้และโครงสร้างพื้นที่
2. การวัดความสูงและความลาดเอียงของภูมิประเทศ
กล้อง Total Station สามารถวัดความสูงของพื้นที่ที่มีภูมิประเทศซับซ้อนได้
ใช้ในการวิเคราะห์ Slope และ Aspect ของพื้นที่ป่า → เพื่อติดตามการชะล้างดินหรือการกระจายพันธุ์ไม้
3. การกำหนดเขตและการจัดทำแผนที่ป่า
- ใช้วัดแนวเขตป่าสงวน/อุทยาน
- สามารถสร้างเส้นขอบเขตที่แม่นยำและใช้เชื่อมโยงกับระบบ GIS
4. การติดตามความเปลี่ยนแปลง
- เก็บข้อมูลพิกัดซ้ำในช่วงเวลาต่าง ๆ → ใช้ตรวจสอบว่าป่าถูกบุกรุก, มีการตัดไม้ หรือไฟป่าเกิดขึ้นในจุดใด
ความท้าทายของการใช้กล้องในพื้นที่ป่า
- การบังทัศนวิสัยจากต้นไม้ → ต้องเปิดแนวเล็ง (Line of Sight) หรือใช้ปริซึมเสริม
- พื้นที่สูงชัน/เข้าถึงยาก → ต้องเลือกตำแหน่งตั้งกล้องที่มั่นคง
- สภาพอากาศและความชื้นสูง → ส่งผลต่อการทำงานของเลนส์และวงจรอิเล็กทรอนิกส์
- สัญญาณ GPS ไม่เสถียร → ในป่าทึบมักบังสัญญาณ ทำให้กล้อง Total Station มีบทบาทสำคัญแทน
เทคนิคการทำงานในป่า
- สร้าง Control Point รอบพื้นที่ป่า → เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับระบบพิกัดใหญ่
- ใช้ ปริซึมสะท้อนสูง → ช่วยเล็งในพื้นที่ที่มีต้นไม้หนาแน่น
- วัดแบบ Traverse Survey → เชื่อมโยงแนวกล้องต่อเนื่องให้ครอบคลุมพื้นที่
- ประมวลผลร่วมกับ ซอฟต์แวร์ GIS → เช่น ArcGIS, QGIS → เพื่อทำแผนที่และวิเคราะห์
สรุป
การใช้กล้องประมวลผลในงานป่า = สร้างข้อมูลที่ละเอียดและเชื่อมโยงกับ GIS ได้แม่นยำ เหมาะสำหรับงาน
- การวางเขตป่าสงวน
- การศึกษาการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่า
- การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
- การติดตามภัยพิบัติ เช่น ไฟป่าหรือการชะล้างดิน
18 ก.ย. 2568
18 ก.ย. 2568
17 ก.ย. 2568
17 ก.ย. 2568