Last updated: 1 ก.ย. 2568 | 9 จำนวนผู้เข้าชม |
กล้องระดับ มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบความเรียบของถนนก่อนปูยางมะตอย โดยเฉพาะในขั้นตอนเตรียมพื้นผิวถนนให้ได้ระดับและมีความลาดเอียงตามที่ออกแบบไว้ เพื่อให้ถนนมีคุณภาพดีและทนทานในระยะยาว
ถนนที่เรียบและได้ระดับจะช่วยให้:
ขั้นแรกคือการกำหนดจุดอ้างอิงที่มีค่าระดับความสูงที่ทราบแน่นอน (Elevation) ซึ่งเรียกว่า Benchmark (BM) จุดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการวัดค่าระดับของพื้นที่ทั้งหมด
ตั้งกล้องระดับบนขาตั้งให้มั่นคงและได้ระดับในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นพื้นที่ถนนที่ต้องการตรวจสอบได้ จากนั้นอ่านค่าจากไม้สต๊าฟ (Staff Rod) ที่วางบนจุด BM เพื่อหาค่า Height of Instrument (HI) หรือค่าความสูงของระดับสายตาของกล้อง โดยใช้สูตร:
HI = ค่าระดับ BM + ค่าที่อ่านได้จากไม้สต๊าฟ .
เมื่อได้ค่า HI แล้ว ช่างสำรวจจะเดินไปตามแนวถนนและวางไม้สต๊าฟในจุดที่ต้องการตรวจสอบ เช่น ทุก 5 เมตร หรือทุก 10 เมตร จากนั้นอ่านค่าจากไม้สต๊าฟแล้วนำมาคำนวณหาค่าระดับของจุดนั้นๆ โดยใช้สูตร:
ค่าระดับของจุด = HI - ค่าที่อ่านได้จากไม้สต๊าฟ
นำค่าระดับจริงของแต่ละจุดที่วัดได้มาเปรียบเทียบกับค่าระดับที่ระบุในแบบแปลน หากค่าที่วัดได้ใกล้เคียงกับค่าในแบบแปลน แสดงว่าพื้นถนนมีความเรียบและได้ระดับตามที่ต้องการ หากค่าแตกต่างกันมาก แสดงว่าพื้นผิวมีส่วนที่นูนหรือเป็นหลุม ต้องทำการแก้ไขก่อนปูยางมะตอย
การใช้กล้องระดับเป็นวิธีการที่แม่นยำและเป็นระบบในการควบคุมความเรียบของถนนก่อนการปูยางมะตอย การตรวจวัดค่าระดับของพื้นถนนอย่างละเอียดและเปรียบเทียบกับแบบแปลนจะช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถปรับปรุงพื้นผิวให้สมบูรณ์แบบได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ซึ่งส่งผลให้ถนนมีคุณภาพสูงและพร้อมสำหรับการใช้งานในระยะยาว
1 ก.ย. 2568
28 ส.ค. 2568
28 ส.ค. 2568
29 ส.ค. 2568