เลือกซื้อกล้อง Total Station ต้องดูอะไรบ้าง?

การเลือกซื้อกล้อง Total Station สำหรับงานสำรวจหรือก่อสร้าง ไม่ใช่แค่การตัดสินใจจาก "ยี่ห้อ" หรือ "ราคา" เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน เพื่อให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนานที่สุด

1. ความละเอียดในการอ่านมุม (Angle Accuracy)

ความแม่นยำคือหัวใจสำคัญของกล้อง Total Station ซึ่งวัดเป็นหน่วย ฟิลิปดา (Second: ) ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าไหร่ ความแม่นยำก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

• 1 (สูงมาก): เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ละเอียดอ่อน เช่น การวางแนวสะพาน อาคารสูง หรืออุโมงค์
• 25 (ทั่วไป): เป็นมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับงานทั่วไป เช่น การวางผังอาคาร วางหมุด และงานก่อสร้างทั่วไป
• 10 ขึ้นไป: เหมาะสำหรับงานสำรวจเบื้องต้นหรืองานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูงมาก

2. ระยะวัดไกลสุด (Measuring Range)

พิจารณาจากลักษณะพื้นที่งานของคุณ หากต้องทำงานในพื้นที่กว้างหรือโล่ง ควรเลือกกล้องที่สามารถวัดระยะได้ไกล ซึ่งบางรุ่นอาจวัดได้ถึง 3,0005,000 เมตร เมื่อใช้ร่วมกับปริซึม (Prism) นอกจากนี้ หากต้องใช้โหมด Reflectorless (การยิงระยะโดยไม่ใช้ปริซึม) ควรตรวจสอบระยะที่กล้องสามารถยิงได้จริง เช่น 300800 เมตร

3. ระบบเก็บข้อมูล (Data Collection)

กล้องที่ดีควรมีระบบการจัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูลที่สะดวก ควรเลือกรุ่นที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย เช่น USB, Bluetooth หรือ SD Card และสามารถส่งออกไฟล์ข้อมูลในรูปแบบที่ใช้งานง่าย เช่น CSV, DXF หรือ GSI หากกล้องรองรับซอฟต์แวร์ภาคสนาม เช่น FieldGenius หรือ Magnet Field จะช่วยให้การบันทึกและคำนวณข้อมูลในพื้นที่หน้างานง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

4. หน้าจอแสดงผล (Display & Interface)

หน้าจอของกล้องควรเป็นแบบ LCD ที่มีความคมชัดสูงและมองเห็นได้ง่ายแม้ในสภาพแสงแดดจัด การมีหน้าจอสองด้าน (2-Sided Display) จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนตำแหน่งการเล็งบ่อย ๆ รวมถึงควรเลือกรุ่นที่มีเมนูการใช้งานที่เข้าใจง่ายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

5. แบตเตอรี่และพลังงาน

ตรวจสอบประเภทของแบตเตอรี่ (เช่น ลิเธียม หรือ AA) และระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง บางรุ่นอาจรองรับการชาร์จผ่านสาย USB หรือมีแบตเตอรี่สำรองที่สามารถพกพาได้ เพื่อให้การทำงานไม่สะดุด

6. การสอบเทียบและศูนย์บริการ

กล้อง Total Station เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการการดูแลและสอบเทียบ (Calibration) อย่างสม่ำเสมอ ควรเลือกร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายที่มี ศูนย์บริการและซ่อมบำรุง ในประเทศ และสามารถออก ใบรับรองการสอบเทียบ (Calibration Certificate) ตามมาตรฐานได้ จะช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว

7. อุปกรณ์เสริมที่ให้มาครบหรือไม่

ตรวจสอบรายการอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับกล้องว่ามีอะไรบ้าง โดยชุดมาตรฐานควรประกอบด้วย:

• ขาตั้งกล้อง (Tripod)
• โพล (Pole) พร้อมปริซึม (Prism)
• แบตเตอรี่และเครื่องชาร์จ
• กล่องเก็บกล้องแบบกันกระแทก
• คู่มือการใช้งานและโปรแกรมเชื่อมต่อข้อมูล

8. ยี่ห้อและรุ่นที่เชื่อถือได้

การเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงจะช่วยให้มั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขายได้มากขึ้น:

• Leica: โดดเด่นเรื่องความแม่นยำสูง, ซอฟต์แวร์ครบ
• Topcon: แข็งแรง, ใช้งานง่าย
• Nikon: เลนส์คมชัด, น้ำหนักเบา
• South / FOIF: ราคาเข้าถึงง่าย, เหมาะกับผู้เริ่มต้น
• Sokkia: ทนทาน, ใช้งานกลางแจ้งดี

9. งบประมาณและความคุ้มค่า

การตั้งงบประมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้กล้องที่ตอบโจทย์งานของคุณได้มากที่สุด

• งบต่ำกว่า 50,000 บาท: อาจพิจารณา Total Station มือสอง หรือรุ่นเริ่มต้นจากแบรนด์ราคาประหยัด
• งบ 50,000 100,000 บาท: สามารถซื้อรุ่นเริ่มต้นที่มีฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน ใช้งานได้ดี
• งบมากกว่า 100,000 บาท: เหมาะสำหรับการลงทุนในรุ่นระดับกลาง-สูง ที่มีความแม่นยำสูงและใช้งานได้ยาวนาน

สรุป

ก่อนตัดสินใจซื้อกล้อง Total Station อย่าลืมพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบด้าน ตั้งแต่ ความละเอียดในการอ่านมุม, ระยะวัด, ระบบเก็บข้อมูล, แบตเตอรี่, อุปกรณ์เสริม, และที่สำคัญคือศูนย์บริการและการสอบเทียบ เพื่อให้คุณได้กล้องที่เหมาะสมกับงานที่สุด และเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้งานของคุณมีประสิทธิภาพและแม่นยำ