เลือกกล้อง Total Station อย่างไรให้เหมาะกับงานและงบประมาณของคุณเลือกกล้อง Total Station อย่างไรให้เหมาะกับงานและงบประมาณ
การลงทุนใน กล้อง Total Station เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญสำหรับนักสำรวจ วิศวกร และผู้รับเหมา เพราะเป็นเครื่องมือหลักที่ส่งผลต่อความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความสำเร็จของโครงการต่างๆ ด้วยกล้อง Total Station ที่มีหลากหลายรุ่นและคุณสมบัติ การเลือกซื้อที่เหมาะสมกับงานและงบประมาณจึงเป็นสิ่งจำเป็น นี่คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา:
1. พิจารณาจากประเภทและลักษณะของงาน
นี่คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เพราะงานแต่ละประเภทต้องการความแม่นยำและฟังก์ชันที่แตกต่างกัน:
- งานก่อสร้างทั่วไป (บ้านเดี่ยว, อาคารพาณิชย์ขนาดกลาง):
- ความแม่นยำมุม (Angular Accuracy): 5-7 ฟิลิปดา (second) เพียงพอ
- ระยะวัดแบบไร้ปริซึม (Reflectorless Range): 200-500 เมตร (สำหรับการวัดผนัง, เสา)
- ฟังก์ชันพื้นฐาน: Stake Out, Area Calculation, Tie Distance
- ความทนทาน: กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54-IP66 (สำคัญมากในไซต์งานก่อสร้าง)
- งานโครงสร้างขนาดใหญ่ (ตึกสูง, สะพาน, เขื่อน, ทางหลวง):
- ความแม่นยำมุม: 1-3 ฟิลิปดา (ยิ่งน้อยยิ่งแม่นยำ)
- ระยะวัดแบบไร้ปริซึม: 500 เมตรขึ้นไป หรือ 1,000 เมตรขึ้นไป (หากต้องวัดเป้าที่เข้าถึงยาก)
- ฟังก์ชันขั้นสูง: Roading, Volume Calculation, Monitoring, Robotics (หากต้องการทำงานคนเดียว)
- ความทนทาน: IP66 ขึ้นไป เพื่อทนทานในสภาพไซต์งานที่สมบุกสมบัน
- งานสำรวจรังวัดที่ดิน, งานภูมิประเทศ (Topographic Survey):
- ความแม่นยำมุม: 3-5 ฟิลิปดา
- ระยะวัดแบบไร้ปริซึม: มีประโยชน์สำหรับการเก็บรายละเอียดที่ไม่อาจตั้งปริซึมได้
- หน่วยความจำและการจัดการข้อมูล: สำคัญสำหรับการเก็บข้อมูลจำนวนมาก
- ซอฟต์แวร์ประมวลผล: ควรเข้ากันได้ดีกับซอฟต์แวร์แผนที่หรือ CAD
- งานเฝ้าระวังการทรุดตัว/เคลื่อนตัว (Monitoring):
- ความแม่นยำมุม: 0.5-1 ฟิลิปดา (ต้องแม่นยำสูงที่สุด)
- ความเสถียรและทนทาน: สามารถทำงานได้ต่อเนื่องในระยะยาว
- Robotic Total Station: มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวัดอัตโนมัติและต่อเนื่อง
2. คุณสมบัติทางเทคนิคที่ควรพิจารณา
- ความแม่นยำเชิงมุม (Angular Accuracy):
ค่านี้บ่งบอกถึงความแม่นยำในการวัดมุม ยิ่งตัวเลขน้อยยิ่งแม่นยำ เช่น 1" (1 ฟิลิปดา) แม่นยำกว่า 5" (5 ฟิลิปดา) เลือกให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการ
- ระยะการวัดแบบไร้ปริซึม (Reflectorless Range):
ความสามารถในการวัดระยะโดยไม่ต้องใช้ปริซึม (เล็งยิงตรงไปยังพื้นผิว) เหมาะสำหรับงานที่ยากต่อการเข้าถึงเป้าหมาย หรือต้องการความรวดเร็วในการเก็บรายละเอียด เลือกให้เหมาะสมกับระยะที่ต้องการใช้งานจริง
- ระบบปฏิบัติการและหน้าจอ (Operating System and Display):
- ปุ่มกด: ใช้งานง่าย คุ้นเคยสำหรับบางคน
- จอสัมผัส (Touch Screen): ใช้งานสะดวกคล้ายสมาร์ทโฟน เข้าถึงฟังก์ชันได้รวดเร็ว
- Windows CE / Android OS: กล้องบางรุ่นมีระบบปฏิบัติการที่คล้ายคอมพิวเตอร์ ทำให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ และเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น
- การจัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อ (Data Management and Connectivity):
- หน่วยความจำภายใน: เพียงพอต่อการเก็บข้อมูลของโครงการ
- การ์ดหน่วยความจำภายนอก (SD Card/USB Flash Drive): สะดวกในการถ่ายโอนข้อมูล
- Bluetooth/Wi-Fi: สำหรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาอื่นๆ
- อายุแบตเตอรี่ (Battery Life):
ควรเพียงพอต่อการทำงานในแต่ละวัน หรือมีแบตเตอรี่สำรองพร้อมใช้งาน
- ความทนทานและมาตรฐานการป้องกัน (Durability and IP Rating):
ตรวจสอบค่า IP (Ingress Protection) เช่น IP66 หมายถึงกันฝุ่นได้สมบูรณ์และกันน้ำจากการฉีดพ่นแรงดันสูงได้ เหมาะสำหรับงานภาคสนาม
- ฟังก์ชันและโปรแกรมภายใน (Onboard Programs/Functions):
ตรวจสอบว่ามีโปรแกรมที่จำเป็นต่องานของคุณหรือไม่ เช่น Stake Out, Resection, Area Calculation, Roading, Volume Calculation เป็นต้น
- Robotic Total Station (สำหรับงานเฉพาะทาง):
หากมีงบประมาณและต้องการทำงานคนเดียว หรือต้องการความเร็วในการเก็บข้อมูลจำนวนมาก รวมถึงงาน Monitoring ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่ราคาสูงกว่าแบบปกติ
3. งบประมาณ
กล้อง Total Station มีช่วงราคาที่กว้างมาก ตั้งแต่หลักแสนต้นๆ ไปจนถึงหลักล้านบาท
- งบประมาณจำกัด: อาจเลือกกล้องที่มีความแม่นยำมุมปานกลาง (5-7 ฟิลิปดา) และฟังก์ชันพื้นฐานครบถ้วน เน้นความทนทานและบริการหลังการขาย
- งบประมาณปานกลาง: เลือกกล้องที่มีความแม่นยำ 3-5 ฟิลิปดา มีฟังก์ชันเสริมที่จำเป็น และระยะวัดแบบไร้ปริซึมที่เหมาะสม
- งบประมาณสูง: สามารถพิจารณากล้องที่มีความแม่นยำสูง 1-2 ฟิลิปดา, Robotic Total Station, หรือรุ่นที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
4. บริการหลังการขายและชื่อเสียงของแบรนด์
ปัจจัยนี้สำคัญไม่แพ้กัน:
- การรับประกัน: ระยะเวลารับประกันและความคุ้มครอง
- บริการคาริเบทและซ่อมบำรุง: มีศูนย์บริการที่เข้าถึงง่าย ช่างมีความชำนาญ และมีอะไหล่พร้อม
- การสนับสนุนทางเทคนิค: สามารถให้คำแนะนำในการใช้งานหรือแก้ปัญหาได้
- ชื่อเสียงของแบรนด์: แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการ เช่น Leica, Topcon, Trimble, Sokkia, Nikon, Ruide มักจะมีความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพและบริการ
สรุป
การเลือกกล้อง Total Station ที่ดีที่สุดคือการเลือกกล้องที่เหมาะสมกับ "งานหลัก" ที่คุณจะทำบ่อยที่สุด มี "คุณสมบัติทางเทคนิค" ตรงตามความต้องการ และอยู่ใน "งบประมาณ" ที่กำหนดไว้ พร้อมกับได้รับ "บริการหลังการขาย" ที่น่าเชื่อถือ การทำความเข้าใจในปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อกล้อง Total Station ที่เป็นเสมือน "คู่หู" ที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จในทุกโครงการ
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด