ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางปริซึมมีผลต่อความแม่นยำของการวัดหรือไม่?

Last updated: 20 ต.ค. 2568  |  11 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางปริซึมมีผลต่อความแม่นยำของการวัดระยะทางหรือไม่?

การเลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางปริซึมมีผลต่อความแม่นยำของการวัดระยะทางหรือไม่?

ในการปฏิบัติงานสำรวจด้วยกล้อง Total Station การเลือกใช้เป้าปริซึมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (Prism Diameter) แตกต่างกันนั้น **มีผลต่อความเสถียรของสัญญาณสะท้อนและระยะทางสูงสุดที่สามารถวัดได้** ซึ่งส่งผลกระทบโดยอ้อมต่อความแม่นยำของผลลัพธ์ บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงานและปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับงานสำรวจแต่ละประเภท


1. หลักการทำงานพื้นฐานของเป้าปริซึม

เป้าปริซึมทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนลำแสงเลเซอร์ (Light Reflector) จากกล้อง Total Station ให้กลับไปยังตัวรับสัญญาณ (EDM) ของกล้อง เครื่องมือจะคำนวณระยะทางโดยอาศัยหลักการวัดเวลาที่แสงเดินทางไปและกลับ (Time of Flight) หรือการวัดเฟส (Phase Shift)

ดังนั้น ขนาดของปริซึมจึงเป็นตัวกำหนดปริมาณพลังงานแสงที่สามารถสะท้อนกลับเข้าสู่กล้องได้โดยตรง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความแรงและความคมชัดของสัญญาณในระยะไกล

2. ผลกระทบของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางต่อความเสถียรของการวัด

ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของปริซึมส่งผลต่อคุณสมบัติทางแสงและการใช้งาน ดังตารางต่อไปนี้:

ขนาดปริซึมเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณคุณสมบัติทั่วไปผลต่อความแม่นยำและการใช้งาน
ใหญ่62 มม. (หรือมากกว่า)พื้นที่สะท้อนกว้าง รับแสงได้มากสะท้อนสัญญาณกลับได้แรงและเสถียรกว่า เหมาะสำหรับงานสำรวจ ระยะไกล ($\gt 200 \text{ ม.}$) ค่าที่อ่านได้จะมั่นคงกว่า
กลาง 40 -50  มม.ใช้ได้อเนกประสงค์ความแม่นยำดี เหมาะสำหรับงานทั่วไปในไซต์ก่อสร้างที่ต้องการความคล่องตัว
เล็ก/มินิ25- 30  มม.พื้นที่สะท้อนน้อย น้ำหนักเบาเหมาะสำหรับพื้นที่แคบ สัญญาณอ่อนลงในระยะไกล ค่าระยะอาจไม่นิ่งหากวัดเกิน 150ม.

3. สรุปเชิงเทคนิคและปัจจัยกำหนดความแม่นยำ

  • ผลต่อระยะทาง: ปริซึมขนาดใหญ่จะให้สัญญาณสะท้อนที่แรงกว่า ทำให้กล้องสามารถวัดระยะได้ไกลกว่าและมีโอกาส "หาค่าเจอ" ได้ง่ายกว่า
  • ความแม่นยำในระยะสั้น: ในระยะสั้น (10 -30 ม. Mini Prism สามารถให้ความแม่นยำได้สูงเทียบเท่ากับปริซึมขนาดใหญ่
  • ปัจจัยกำหนดความแม่นยำที่แท้จริง: ความแม่นยำเชิงตัวเลขจะขึ้นอยู่กับ:
    • คุณภาพของผิวเคลือบปริซึม
    • การตั้งค่า Prism Offset ที่ถูกต้องตามสเปก
    • การตั้งศูนย์โพล (Pole) ให้ตั้งฉากในแนวดิ่งอย่างสมบูรณ์

4. แนวทางการเลือกขนาดปริซึมให้เหมาะสมกับงาน

ลักษณะงานปริซึมที่เหมาะสมเหตุผลในการเลือก
งานสำรวจพื้นที่กว้าง/แนวยาว  200  ม.ปริซึมใหญ่ 62มม.สะท้อนแสงแรง, วัดได้ระยะไกล, ให้สัญญาณที่เสถียร
งานก่อสร้างอาคารทั่วไป/งานวางแนวปริซึมขนาดกลาง  40 50  มม.สมดุลระหว่างความแม่นยำและความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย
งานติดตั้งเครื่องจักร/ภายในอาคารมินิ ปริซึม  25 30 มม.น้ำหนักเบา, มีความคล่องตัว, สามารถตั้งเป้าในพื้นที่จำกัดได้ง่าย

5. ข้อควรระวังและบทสรุป

ข้อควรระวังในการใช้งาน:

  • หากใช้ปริซึมเล็กในระยะไกลเกินไป สัญญาณอาจอ่อนเกินไป ทำให้การวัดค่าระยะไม่คงที่
  • ปริซึมที่มีรอยแตกหรือเคลือบผิวเสียหาย จะทำให้การสะท้อนผิดมุมและเกิดค่าคลาดเคลื่อนสูงแม้ขนาดจะใหญ่ก็ตาม
  • ความคลาดเคลื่อนจากการตั้งโพลไม่ตรงแนวดิ่ง (Plumbing Error) มีผลกระทบต่อความแม่นยำมากกว่าขนาดของปริซึม

บทสรุป:

ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของปริซึมมีผลโดยตรงต่อ **ความเสถียรของสัญญาณสะท้อนและระยะการวัดสูงสุดที่กล้องตรวจจับได้** แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่กำหนดความแม่นยำเชิงตัวเลขเพียงอย่างเดียว

ปริซึมใหญ่ วัดได้ไกลและนิ่งกว่า | ปริซึมเล็ก คล่องตัวกว่าในพื้นที่จำกัด

ความแม่นยำขั้นสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับ **คุณภาพปริซึม, การตั้งศูนย์, และการตั้งค่า Prism Offset ที่ถูกต้อง** มากกว่าเพียงแค่ขนาดของปริซึม


ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้