การวัดระดับสะพานกลางน้ำโดยใช้กล้องสำรวจในการทำงาน

Last updated: 19 ส.ค. 2568  |  25 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การวัดระดับสะพานกลางน้ำโดยใช้กล้องสำรวจในการทำงาน

การวัดระดับสะพานกลางน้ำด้วยกล้องสำรวจ เป็นหนึ่งในงานที่ซับซ้อนที่สุดของช่างสำรวจ เพราะต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ทั้งเรื่องความมั่นคงของกล้อง พื้นที่ติดน้ำ และสภาพอากาศ

ความท้าทายหลัก
พื้นไม่มั่นคง การตั้งกล้องบนเรือหรือแพจะทำให้เกิดการสั่นไหวตลอดเวลา ส่งผลให้การอ่านค่าระดับไม่แม่นยำ ระยะเล็งไกลและคลื่นน้ำ
ต้องวัดจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่ง ซึ่งอาจเกิน 100–200 ม. การสะท้อนของคลื่นน้ำและไอร้อนจากผิวน้ำอาจทำให้ภาพเบลอ การเข้าถึงจุดสังเกต (Benchmark)
จุดควบคุมระดับ (BM) มักอยู่บนฝั่ง → ต้องวางแผนการเชื่อมโยงค่าไปถึงกลางสะพาน


วิธีการแก้ปัญหา
ตั้งกล้องบนฝั่งเป็นหลัก
ใช้ กล้องระดับอัตโนมัติ (Auto Level) หรือ Total Station บนฝั่ง อ่านค่าจากสต๊าฟที่อยู่บนสะพานหรือเสาเข็มกลางน้ำใช้ขาตั้งเสริมกลางน้ำ กรณีจำเป็น อาจสร้าง แท่นคอนกรีตชั่วคราวหรือเสาเหล็ก ตรงกลางน้ำ
ใช้เป็นจุดตั้งกล้องหรือจุดวางสต๊าฟ ทคนิคการวัดแบบ “ย้อน–ไปกลับ” อ่านค่าจากสองฝั่งของสะพานเพื่อลดค่าคลาดเคลื่อน เฉลี่ยผลลัพธ์เพื่อได้ค่าที่น่าเชื่อถืใช้กล้องที่มีระบบชดเชย (Compensator)

เช่น กล้อง Digital Level หรือ Total Station ที่มีการประมวลผลอัตโนมัติ
ช่วยลดผลจากการสั่นเล็กน้อยและความคลาดเคลื่อน
การเชื่อมโยงกับ GNSS

ใช้ GPS/RTK ควบคู่กับการวัดกล้อง
โดยเฉพาะงานวัดกลางน้ำที่เข้าถึงยาก

เคล็ดลับจากช่างภาคสนาม
ไม่ควรตั้งกล้องบนเรือโดยตรง เว้นแต่เป็นเรือใหญ่และมีระบบกันสั่น
ใช้ สต๊าฟสะท้อนแสง (Reflective staff) หรือเป้าปริซึม → ทำให้เล็งง่ายขึ้นในระยะไกล
ถ้าเป็นงานสะพานใหญ่ → ใช้ การวัดหลายรอบ (Redundant Measurement) เพื่อตรวจสอบซ้ำ

สรุปสั้น ๆ:
การวัดระดับสะพานกลางน้ำควรใช้กล้องจากฝั่งหรือแท่นที่มั่นคง ร่วมกับเทคนิคย้อน–ไปกลับ และบางครั้งต้องพึ่งพา GNSS ช่วย เพื่อให้ได้ค่าระดับที่แม่นยำและปลอดภัยที่สุด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้