ทดสอบยิงระยะ 500 เมตร ในพื้นที่มีคลื่นรบกวน

Last updated: 13 ส.ค. 2568  |  28 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทดสอบยิงระยะ 500 เมตร ในพื้นที่มีคลื่นรบกวน

ทดสอบยิงระยะ 500 เมตร ในพื้นที่มีคลื่นรบกวน
 สำหรับการ ทดสอบยิงระยะ 500 เมตรในพื้นที่มีคลื่นรบกวน (heat wave/แสงสั่น) ให้ได้ผลเชื่อถือได้

เป้าหมายการทดสอบ
ตรวจว่า EDM ของกล้อง (Total Station/TS) ยังแม่นยำตามสเปก ที่ระยะ ~500 ม. ประเมินผลกระทบจาก คลื่นความร้อน ลม แสงสะท้อน และลดอคติการวัด

อุปกรณ์/การตั้งค่า (Checklist)
กล้อง TS ที่สอบเทียบล่าสุด + ขาตั้งหนัก (ล็อกแน่นทุกขา)
ปริซึมแบบวงเต็ม/360° (สะอาด ไม่แตกร้าว) + เสา/ขาตั้งปริซึม (มีฟองอากาศ)
เทปเหล็ก/RTK สำหรับเช็คคร่าวๆ ระยะฐาน (ถ้ามี baseline ที่ทราบระยะยิ่งดี)
ค่าป้อนบรรยากาศ: อุณหภูมิ (°C) + ความดัน (hPa) → กรอกเข้ากล้อง
ตั้งค่า Prism Constant ให้ถูกตรงรุ่น
เลือกโหมดวัด Fine/Tracking (ปรับเป็น Fine ตอนอ่านค่า)

วิธีลด “คลื่นรบกวน” ให้ได้ผลดี
เลี่ยงช่วง แดดจัด 10:30–15:30; ทำ เช้า/เย็น จะดีที่สุด
ยกเส้นเล็งให้ สูงพ้นพื้น (≥1.6–1.8 ม.) ลดการมองผ่านผิวร้อน
หลบพื้นผิวสะท้อนจัด (คอนกรีตขาว/น้ำ) หรือเปลี่ยนแนวเล็งเล็กน้อย
ใช้ Face I/Face II วัดสลับหน้า ลด collimation error
ลมแรงมาก → เพิ่มเวลาตั้งตัวของปริซึม/ใช้ตีนเสาแบบหนามแทงดิน

ขั้นตอนทดสอบมาตรฐาน (500 ม.)
จัดวางฐาน: ตั้งกล้องที่จุด A, ปริซึมที่จุด B (500 ± 10 ม.). ให้เส้นเล็งสูงพ้นพื้น
ตั้งค่ากล้อง: ใส่ Temp/Pressure, ตรวจฟองระดับ, ใส่ Prism Constant ให้ถูก
รอบการวัดหนึ่งชุด

การคำนวณที่ควรรู้ (สรุปเร็ว)
ส่วน ppm = (ppm สเปก) × (ระยะม.) / 1,000,000

ตัวอย่าง 2 ppm ที่ 500 ม. = 1 มม.
ตรวจ HD/SD/ΔH ว่ามีค่าลอยผิดปกติไหม (ΔH เพี้ยนมาก = เสา/ปริซึมไม่ดิ่ง)

วัด Face I (FI) จำนวน 5 ครั้ง → บันทึกทุกค่า
พลิกเป็น Face II (FII) วัดอีก 5 ครั้ง
บันทึก SD(เฉียง), HD(ราบ), และ ΔH ทุกครั้ง
สลับตำแหน่ง: สลับ—ย้ายกล้องไป B ปริซึมไป A → ทำซ้ำอีก 1 ชุด
(ตรวจ bias ทิศทาง/คอลลิเมชัน)
ทดสอบเวลา: ทำ อย่างน้อย 2 ช่วงเวลา (เช้า/บ่าย) เพื่อเห็นผล heat wave
ทดสอบโหมด (ถ้าต้องการ): Prism vs. Reflectorless (ถ้ามีพื้นผิวเหมาะสม)
เคล็ดลับ: ขณะอ่านค่า ใช้โหมด Fine (หรือ Average N=5–10) แล้วค่อยกดเก็บ

เกณฑ์ยอมรับ (ตัวเลขอ้างอิงภาคสนาม)
สเปกทั่วไป EDM (โหมดปริซึม) มักใกล้เคียง ±(2 มม. + 2 ppm)
ที่ 500 ม.: ส่วน ppm = 2 ppm × 500 ม. / 10⁶ ≈ 1 มม.
รวมคร่าว ๆ ≈ ±3 มม. ต่อหนึ่งครั้งวัดในสภาพดี

เกณฑ์แนะนำสำหรับผลเฉลี่ย/การกระจาย
ค่ากระจาย (Range = max–min) ของ 10 ครั้ง/ชุด ≤ 6–8 มม.
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ≤ 2–3 มม.
ความต่าง “ไป–กลับ” (A→B vs B→A) ของค่าเฉลี่ย ≤ 4–5 มม.
ถ้า Reflectorless: อนุญาตกว้างขึ้น เช่น SD ≤ 4–6 มม. (ขึ้นกับพื้นผิว)
ถ้าตัวเลข “บ่ายแดดจัด” หลุดเกณฑ์ แต่ “เช้า” ผ่าน → โทษ heat wave ก่อนโทษกล้อ

การคำนวณที่ควรรู้ (สรุปเร็ว)
ส่วน ppm = (ppm สเปก) × (ระยะม.) / 1,000,000

ตัวอย่าง 2 ppm ที่ 500 ม. = 1 มม.
ตรวจ HD/SD/ΔH ว่ามีค่าลอยผิดปกติไหม (ΔH เพี้ยนมาก = เสา/ปริซึมไม่ดิ่ง)

ถ้าผล “ไม่ผ่าน” ทำไงดี
เช็ก Prism Constant / สูงกล้อง–สูงปริซึม / ฟองระดับ
ใส่ Temp/Pressure ให้ถูก (ลองแก้ไข/อัปเดตแล้ววัดใหม่)
ทำซ้ำช่วงเวลา อากาศนิ่งขึ้น (เช้า/เย็น)
ล้างหน้าเลนส์/ปริซึม, ขยับแนวเล็งหลบผิวร้อน
ถ้ายังแกว่งเกินเกณฑ์ → ส่งสอบเทียบ ตรวจ EDM/คอลลิเมชัน

สรุปสั้น
ทดสอบระยะ 500 ม. ในพื้นที่มีคลื่นรบกวน ทำได้ แต่ต้องคุมเวลา–ความสูงเส้นเล็ง–สภาพแวดล้อม และวัดซ้ำหลายช็อต/หลายหน้า พร้อมเกณฑ์วิเคราะห์ SD/Range/ไป–กลับ ให้ชัดเจน หากเช้า “ผ่าน” แต่บ่าย “ไม่ผ่าน” คืออิทธิพล heat wave มากกว่าความผิดพลาดของกล้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้