การวัดค่าระดับให้ได้ค่าที่ถูกต้องในการสร้างถนน สำคัญอย่างไร?

การสร้างถนนเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับการคมนาคมขนส่งและการพัฒนาเศรษฐกิจ การจะสร้างถนนให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนานนั้น การวัดค่าระดับให้ได้ค่าที่ถูกต้องแม่นยำ (Accurate Leveling) ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่สามารถละเลยได้เลย หากการวัดค่าระดับผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อโครงการถนนทั้งหมดได้

ความสำคัญของการวัดค่าระดับที่ถูกต้องในการสร้างถนน

1. ความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน:

• การระบายน้ำ: ระดับถนนที่ไม่ถูกต้องจะส่งผลต่อการระบายน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนผิวจราจร ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงฝนตกหนัก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นไถล (Hydroplaning) หรือการควบคุมรถได้ยาก
• ทัศนวิสัย: ระดับที่ไม่สม่ำเสมออาจทำให้เกิดแอ่งน้ำหรือพื้นผิวขรุขระ ส่งผลต่อทัศนวิสัยและความสบายในการขับขี่
• ความมั่นคง: พื้นผิวถนนที่ไม่ได้ระดับอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดการยุบตัวหรือแตกร้าว ซึ่งเป็นอันตรายต่อโครงสร้างถนนในระยะยาว

2. ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของถนน:

• การรับน้ำหนัก: การออกแบบระดับถนนจะคำนึงถึงการกระจายน้ำหนักบรรทุกที่สม่ำเสมอ หากระดับไม่ถูกต้อง การกระจายน้ำหนักจะผิดเพี้ยน ทำให้บางส่วนของถนนรับภาระมากเกินไป เกิดการทรุดตัวหรือเป็นคลื่น
• โครงสร้างที่สมบูรณ์: ระดับที่แม่นยำเป็นสิ่งจำเป็นในการวางชั้นดินคันทาง (Subgrade), ชั้นรองพื้นทาง (Subbase), ชั้นพื้นทาง (Base Course) และชั้นผิวจราจร (Pavement) ให้ได้ความหนาและแนวที่ถูกต้อง หากผิดพลาดเพียงชั้นใดชั้นหนึ่ง ก็จะส่งผลต่อความแข็งแรงและความทนทานของถนนทั้งหมด
• ลดการซ่อมบำรุง: ถนนที่สร้างได้ระดับถูกต้องตามมาตรฐานจะมีความทนทานต่อสภาพการใช้งานและสภาพอากาศได้ดีกว่า ทำให้ลดความถี่และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในอนาคต

3. การควบคุมต้นทุนและงบประมาณโครงการ:

• ปริมาณวัสดุ: การคำนวณปริมาณดินตัด (Cut) และดินถม (Fill) สำหรับงานคันทางถนนต้องอาศัยค่าระดับที่แม่นยำ หากค่าระดับผิดพลาด จะทำให้ปริมาณดินที่คำนวณไว้คลาดเคลื่อน ส่งผลให้ต้องสั่งซื้อวัสดุเพิ่ม หรือมีวัสดุเหลือทิ้ง ซึ่งล้วนแต่เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
• เวลาและแรงงาน: การแก้ไขงานระดับที่ไม่ถูกต้องในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นการรื้อถอน การถมเพิ่ม หรือการปรับระดับใหม่ ล้วนแต่ต้องใช้เวลา แรงงาน และเครื่องจักรเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้โครงการล่าช้าและใช้งบประมาณเกินกว่าที่กำหนด

4. คุณภาพตามมาตรฐานและข้อกำหนด:

• มาตรฐานวิศวกรรม: การก่อสร้างถนนทุกโครงการจะมีแบบแปลนและข้อกำหนดทางวิศวกรรมที่เข้มงวด ซึ่งระบุค่าระดับความสูง, ความลาดเอียง (Slope), และความลาดเททางข้าง (Crossfall/Camber) อย่างชัดเจน การวัดค่าระดับที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้งานเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
• การตรวจสอบและส่งมอบงาน: เมื่อโครงการสร้างถนนเสร็จสิ้น จะมีการตรวจสอบคุณภาพงาน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบค่าระดับของผิวจราจร หากค่าไม่ถูกต้อง งานอาจไม่ผ่านการตรวจรับ ทำให้ต้องแก้ไขงานซ้ำ

บทบาทของอุปกรณ์สำรวจในการวัดค่าระดับที่ถูกต้อง

เพื่อให้ได้ค่าระดับที่ถูกต้องแม่นยำตามที่กล่าวมา กล้องวัดระดับ (Automatic Level, Digital Level) และกล้อง Total Station ถือเป็นเครื่องมือหลักที่สำคัญอย่างยิ่งในการ:

• สำรวจภูมิประเทศเริ่มต้น: เก็บข้อมูลระดับเดิมของพื้นที่เพื่อใช้ในการออกแบบแนวถนนและคำนวณปริมาณงานดิน
• ควบคุมระดับคันทาง: วางหมุดระดับเพื่อควบคุมการถมดินและการบดอัดดินคันทางในแต่ละชั้นให้ได้ระดับความสูงที่ถูกต้อง
• วางระดับชั้นพื้นทางและผิวจราจร: ควบคุมความหนาและความเรียบของชั้นวัสดุต่างๆ จนถึงผิวจราจร เพื่อให้ได้ถนนที่เรียบและได้ความลาดเอียงตามที่ออกแบบไว้สำหรับการระบายน้ำ

สรุป

การวัดค่าระดับที่ถูกต้องในการสร้างถนนจึงไม่ใช่แค่ขั้นตอนทางเทคนิค แต่เป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของโครงการถนนทั้งหมด เปรียบเสมือนการวางเสาเข็มที่แข็งแรงของอาคาร การลงทุนในบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และอุปกรณ์สำรวจที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าการวัดค่าระดับทุกขั้นตอนนั้นถูกต้อง จะนำไปสู่การสร้างถนนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ยั่งยืน และคุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างแท้จริง