วิธีการใช้กล้องวัดมุม ในการตรวจสอบหาแนวดิ่ง

Last updated: 10 มิ.ย. 2568  |  40 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีการใช้กล้องวัดมุม ในการตรวจสอบหาแนวดิ่ง

การใช้กล้องวัดมุม (Theodolite) ในการตรวจสอบแนวดิ่ง: สร้างความมั่นคงให้โครงสร้างอาคาร

การใช้กล้องวัดมุม (Theodolite) ในการตรวจสอบแนวดิ่ง: สร้างความมั่นคงให้โครงสร้างอาคาร

ในงานก่อสร้างอาคารและโครงสร้างสูง ไม่ว่าจะเป็นเสา ผนังลิฟต์ หรือแกนกลางอาคาร (Core) การทำให้ทุกองค์ประกอบตั้งตรงเป็น "แนวดิ่ง" ที่สมบูรณ์แบบถือเป็นหัวใจสำคัญ หากเกิดการเอียงหรือไม่ได้ดิ่งแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคง ความปลอดภัย และการใช้งานของอาคารในระยะยาว และนี่คือที่มาของบทบาทสำคัญของ กล้องวัดมุม (Theodolite หรือ Digital Theodolite) เครื่องมือที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความแม่นยำสูงในการตรวจสอบและควบคุมแนวดิ่งของโครงสร้าง

ทำไมแนวดิ่งจึงสำคัญต่อโครงสร้าง?

  • ความมั่นคงและสมดุล: โครงสร้างที่ตั้งตรงตามแนวดิ่งจะช่วยกระจายน้ำหนักลงสู่ฐานรากได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้โครงสร้างโดยรวมมีเสถียรภาพและมั่นคง
  • ความปลอดภัย: หากเสาหรือผนังเอียง อาจทำให้เกิดแรงเค้นที่ไม่พึงประสงค์ในโครงสร้าง นำไปสู่การแตกร้าว การเสียรูป หรือแม้กระทั่งการวิบัติของอาคาร
  • การใช้งานและการติดตั้ง: ผนังหรือเสาที่ไม่ได้ดิ่งจะส่งผลต่อการติดตั้งองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ประตู หน้าต่าง แผงกระจก หรือการวางท่อระบบต่างๆ ทำให้เกิดความยากลำบาก เสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการปรับแก้ไข
  • ความสวยงาม: โครงสร้างที่ไม่ได้ดิ่งจะดูไม่สวยงามและไม่เป็นระเบียบ

กล้องวัดมุม (Theodolite) กับการตรวจสอบแนวดิ่ง

กล้องวัดมุม (Theodolite) เป็นเครื่องมือทางทัศนศาสตร์ที่ออกแบบมาเพื่อวัดมุมราบและมุมดิ่งได้อย่างแม่นยำ ด้วยคุณสมบัติเด่นคือการมีเส้นใยแก้วนำแสงที่สามารถหมุนได้ทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตรวจสอบแนวดิ่ง (Verticality Check) หรือการดิ่ง (Plumb/Plumbing) ของโครงสร้าง

หลักการทำงานพื้นฐานคือการใช้กล้องสร้างแนวอ้างอิงที่ดิ่ง (Vertical Line) หรือแนวราบ (Horizontal Line) ที่แม่นยำ แล้วเปรียบเทียบกับแนวของโครงสร้างที่ต้องการตรวจสอบ

ขั้นตอนการใช้กล้องวัดมุมตรวจสอบแนวดิ่ง (วิธีพื้นฐาน)

การตรวจสอบแนวดิ่งด้วยกล้องวัดมุม มักทำโดยการสร้างแนวอ้างอิงดิ่ง (Vertical Reference Line) และวัดการเบี่ยงเบนของโครงสร้างจากแนวอ้างอิงนั้น:

  1. ตั้งกล้องวัดมุมให้ได้ระดับและตรงจุดอ้างอิง:
    • เลือกจุดตั้งกล้องที่มั่นคงและสามารถมองเห็นโครงสร้างที่ต้องการตรวจสอบได้ตลอดแนว (เช่น ห่างจากฐานเสาหรือผนังพอสมควร)
    • ใช้ขาตั้งกล้อง (Tripod) ติดตั้งกล้องให้มั่นคง และตั้งกล้องให้ได้ระดับด้วยการปรับฟุตสกรูและตรวจสอบลูกน้ำวงกลมให้เข้าสู่ศูนย์กลางอย่างละเอียด
    • สำคัญมาก: ต้องตั้งศูนย์กล้อง (Centering) ให้ตรงกับจุดอ้างอิงบนพื้นอย่างแม่นยำที่สุด โดยใช้ Optical Plumb หรือ Laser Plumb ที่อยู่ใต้กล้อง
  2. เล็งไปยังจุดฐานของโครงสร้าง (Bottom Point):
    • หมุนกล้องไปทางโครงสร้างที่ต้องการตรวจสอบ (เช่น เสา หรือผนัง)
    • ใช้สกรูปรับละเอียดแนวราบและแนวดิ่ง เพื่อให้เส้นใยแก้วนำแสงแนวดิ่ง (Vertical Crosshair) ในกล้องโทรทรรศน์ "ทับ" หรือ "ตรง" กับขอบ (หรือจุดกึ่งกลางที่กำหนด) ของโครงสร้าง ณ จุดฐาน (เช่น ที่ฐานเสา) ให้แม่นยำที่สุด
  3. หมุนกล้องขึ้นไปตรวจสอบจุดยอด (Top Point):
    • โดย ห้ามหมุนสกรูปรับละเอียดแนวราบเด็ดขาด (เพราะต้องการรักษาสายเล็งแนวราบให้คงที่) ให้ใช้สกรูปรับละเอียดแนวดิ่งเท่านั้น ค่อยๆ เล็งกล้องขึ้นไปตามแนวดิ่งของโครงสร้าง
    • สังเกตว่าเส้นใยแก้วนำแสงแนวดิ่งยังคง "ทับ" หรือ "ตรง" กับขอบ (หรือจุดกึ่งกลางที่กำหนด) ของโครงสร้าง ณ จุดยอด (เช่น ที่ปลายเสา) หรือไม่
    • หากเส้นใยแก้วนำแสงแนวดิ่งยังคงทับอยู่ แสดงว่าโครงสร้างนั้นตั้งตรงตามแนวดิ่ง
    • หากเส้นใยแก้วนำแสงแนวดิ่ง "ไม่ทับ" แสดงว่าโครงสร้างนั้นเอียงไปจากแนวดิ่ง
  4. วัดค่าการเบี่ยงเบน (Offset Measurement):
    • ในกรณีที่โครงสร้างเอียง ให้ผู้ช่วยถือไม้บรรทัด หรือเครื่องวัดระยะ (เช่น ตลับเมตรเลเซอร์) ณ จุดที่เกิดการเบี่ยงเบน (มักจะเป็นจุดยอด)
    • ผู้สำรวจในกล้องจะบอกให้ผู้ช่วยเลื่อนไม้บรรทัด/เครื่องวัดระยะ ไปทางซ้าย/ขวา (จากมุมมองของกล้อง) จนกระทั่งเส้นใยแก้วนำแสงแนวดิ่งไปตกกระทบที่ระยะ '0' บนไม้บรรทัด/เครื่องวัดระยะที่วางในแนวราบ
    • ค่าที่อ่านได้บนไม้บรรทัด/เครื่องวัดระยะ คือระยะการเบี่ยงเบนจากแนวดิ่ง (เช่น เอียงไปทางทิศตะวันออก 5 มิลลิเมตร)
  5. ทำซ้ำสำหรับอีกด้านหนึ่ง:
    • หากต้องการความแม่นยำยิ่งขึ้น หรือโครงสร้างมีขนาดใหญ่ ควรย้ายตำแหน่งตั้งกล้องไปยังอีกด้านหนึ่งของโครงสร้าง และทำซ้ำขั้นตอนเดิม เพื่อตรวจสอบการเบี่ยงเบนในอีกระนาบหนึ่ง (เช่น การเอียงไปทางทิศเหนือ/ใต้)

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมเพื่อความแม่นยำ

  • เลือกจุดตั้งกล้องที่เหมาะสม: จุดตั้งกล้องควรอยู่ห่างจากโครงสร้างพอประมาณ เพื่อให้สามารถมองเห็นโครงสร้างได้ทั้งหมดและลดความคลาดเคลื่อนจากความผิดพลาดในการเล็ง
  • แสงสว่าง: แสงแดดจ้าหรือแสงน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อการมองเห็น ควรใช้ร่มบังแสง หรือทำงานในสภาพแสงที่เหมาะสม
  • การสั่นสะเทือน: ควรหลีกเลี่ยงการตั้งกล้องในบริเวณที่มีการสั่นสะเทือนสูง เช่น ใกล้เครื่องจักรหนัก หรือการจราจรที่หนาแน่น
  • การดูแลรักษา: กล้องวัดมุมควรได้รับการคาริเบทและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจในความแม่นยำ

สรุป

การใช้กล้องวัดมุม (Theodolite) ในการตรวจสอบแนวดิ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่าโครงสร้างอาคารและองค์ประกอบต่างๆ จะถูกสร้างขึ้นอย่างเที่ยงตรงและได้มาตรฐาน ด้วยความสามารถในการสร้างแนวอ้างอิงที่แม่นยำและวัดค่าการเบี่ยงเบนได้อย่างละเอียด กล้องวัดมุมจึงเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับวิศวกรและนักสำรวจ ที่ต้องการรับประกันความมั่นคง ความปลอดภัย และคุณภาพของทุกโครงการก่อสร้าง


ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้