วิธีเลือกกำลังขยายของกล้องระดับให้เหมาะกับระยะเล็ง
อัพเดทล่าสุด: 22 ก.ย. 2025
63 ผู้เข้าชม

วิธีเลือกกำลังขยายของกล้องระดับให้เหมาะกับระยะเล็ง
กำลังขยาย (Magnification) ของกล้องระดับเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความชัดเจนและความแม่นยำในการวัด การเลือกกำลังขยายที่เหมาะสมกับระยะเล็ง (Sight Distance) ในหน้างานจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลักการเลือกกำลังขยายตามระยะเล็ง
1. กำลังขยายต่ำ (20×24×):
- เหมาะกับ: งานระยะสั้นถึงปานกลาง (30-120 เมตร)
- ข้อดี: ภาพที่เห็นจะสว่างและมีมุมมองกว้าง ทำให้การเล็งไม้สต๊าฟทำได้ง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทั่วไป เช่น การทำถนนระยะสั้นหรืองานปรับพื้นที่
2. กำลังขยายปานกลาง (28×32×):
- เหมาะกับ: งานระยะปานกลางถึงไกล (200-400 เมตร)
- ข้อดี: เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะให้ความสมดุลระหว่างความชัดเจนและความสว่าง ครอบคลุมการใช้งานทั่วไปส่วนใหญ่ในไซต์งาน
3. กำลังขยายสูง (36×40×):
- เหมาะกับ: งานระยะไกลมาก (400-500 เมตรขึ้นไป) หรือเมื่อต้องการอ่านค่าจากไม้สต๊าฟที่มีตัวอักษรขนาดเล็ก
- ข้อดี: ให้ภาพที่ชัดเจนมาก ทำให้สามารถอ่านค่าในระยะไกลได้แม่นยำขึ้น
- ข้อจำกัด: ภาพจะสว่างน้อยลงและมีมุมมองที่แคบลง ทำให้การเล็งทำได้ยากกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีความชำนาญสูง หรือใช้ในงานสำรวจละเอียด เช่น งานชลประทาน, งานสร้างเขื่อน หรือทางรถไฟ
แนวคิดการเลือกกำลังขยาย (โดยทั่วไป)
| ระยะเล็ง (เมตร) | กำลังขยายที่เหมาะสม | งานตัวอย่าง |
|---|---|---|
| 30-120 | 20×24× | งานอาคาร, งานภายในไซต์เล็ก |
| 120-300 | 24×28× | งานถนน, งานปรับพื้นที่ |
| 300-400 | 28×32× | งานสำรวจทั่วไป, งานโครงการใหญ่ |
| 400-500 | 32×40× | งานชลประทาน, เขื่อน, ทางรถไฟ |
สรุป: การเลือกกำลังขยายควรคำนึงถึง ระยะเล็งเฉลี่ย ในหน้างานจริงเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องเลือกกำลังขยายสูงสุดเสมอไป หากงานส่วนใหญ่ของคุณเป็นงานก่อสร้างทั่วไปหรือในระยะใกล้ กำลังขยาย 24×28× ก็เพียงพอและใช้งานได้คล่องตัวกว่า แต่หากเป็นงานที่ต้องวัดระยะไกลมากและต้องการความละเอียดสูง กล้องที่มีกำลังขยาย 30× ขึ้นไปจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด