วิธีหาค่าระดับจากค่าที่วัดได้ (Leveling Calculation)

วิธีหาค่าระดับจากค่าที่วัดได้ (Leveling Calculation)
วิธีหาค่าระดับจากค่าที่วัดได้ (Leveling Calculation) เป็นขั้นตอนในการนำค่าที่ได้จากการอ่านกล้องระดับ (Auto Level) มาคำนวณเพื่อหาค่าระดับจริงของแต่ละจุด โดยทั่วไปจะใช้ 2 วิธีหลัก คือ วิธี HI (Height of Instrument) และ วิธี Rise & Fall
คำศัพท์ที่ใช้บ่อย
- BM (Benchmark): ค่าระดับอ้างอิง (เช่น RL = 100.000 m)
- RL (Reduced Level): ค่าระดับของจุด
- BS (Backsight): ค่าที่อ่านที่ไม้สตาฟ “จุดอ้างอิงด้านหลัง” หลังตั้งกล้อง
- IS (Intermediate Sight): ค่าที่อ่านจุดกลางทาง (ถ้ามี)
- FS (Foresight): ค่าที่อ่านที่ไม้สตาฟ “จุดไปข้างหน้า/ก่อนย้ายกล้อง”
- CP (Change Point): จุดเปลี่ยนกล้อง
1. วิธี HI (Height of Instrument Method)
หลักการ
คำนวณหาระดับกล้อง (HI) จากค่าระดับจุดอ้างอิง (BM) แล้วใช้ HI หักด้วยค่าอ่านหน้าไม้ (FS) เพื่อหาค่าระดับจุดต่างๆ
ขั้นตอน
1. ตั้งกล้องระดับ ใกล้จุดอ้างอิง (BM)
2. อ่านค่า Backsight (BS) ที่ BM
HI = ค่าระดับ BM + BS
3. อ่านค่า Foresight (FS) หรือ Intermediate sight (IS) ของจุดอื่น
ค่าระดับจุด = HI – FS (หรือ IS)
4. บันทึกค่าและทำซ้ำหากย้ายกล้อง
ตัวอย่าง

2. วิธี Rise & Fall Method
หลักการ
เปรียบเทียบค่าที่อ่านได้ระหว่างสองจุดติดต่อกันเพื่อหาว่า “สูงขึ้น (Rise)” หรือ “ต่ำลง (Fall)” แล้วนำไปบวก/ลบจากค่าระดับเดิม
ขั้นตอน
1. อ่านค่าแต่ละจุดตามลำดับ
2. คำนวณความต่าง → ถ้าค่าอ่านจุดใหม่ น้อยลง แปลว่า Rise (สูงขึ้น)
ถ้ามากขึ้น → Fall (ต่ำลง)
3. ค่าระดับใหม่ = ค่าระดับเดิม + Rise หรือ - Fall
ตัวอย่าง

ข้อแนะนำ
- ควรตรวจสอบผลรวม BS – FS = ผลรวม Rise – ผลรวม Fall เพื่อเช็กความถูกต้อง
- ใช้จุดอ้างอิง (BM) ที่ค่าระดับถูกต้องและยืนยันแล้ว
- ควรอ่านค่าให้ชัดและบันทึกทันทีเพื่อลดความผิดพลาด
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด