การใช้กล้องระดับ (Auto Level) ในงานเกษตรและชลประทาน

 การใช้กล้องระดับ (Auto Level) ในงานเกษตรและชลประทาน

     การใช้ กล้องระดับ (Auto Level) ในงานเกษตรและชลประทาน มีบทบาทสำคัญในการจัดการพื้นที่เพาะปลูกและระบบน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยควบคุมระดับพื้นที่ให้เหมาะสมกับการระบายน้ำ, กักเก็บน้ำ และการถมดินเพื่อวางระบบชลประทานได้แม่นยำ

 ความสำคัญของกล้องระดับในงานเกษตรและชลประทาน

1. วางแนวระดับพื้นที่เพาะปลูก

• ตรวจสอบความลาดเอียงของแปลงนา สวน หรือไร่ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังหรือแห้งเกินไป
  
• ช่วยปรับระดับให้พื้นที่เรียบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้น้ำและการไถพรวน

2.  วางระบบชลประทานอย่างถูกหลัก

• ใช้วัดความสูงของแนวท่อส่งน้ำ, คลองส่งน้ำ, คันดิน
  
• กำหนด “ทิศทางน้ำไหล” ได้ชัดเจน ลดความสูญเสียน้ำ

3.  วางระดับในการขุดคลองหรือทำฝาย

• ช่วยให้การขุดลอกลำคลองมีความลึกและความลาดเอียงที่เหมาะสม
  
• ใช้ควบคุมระดับของฝายหรือประตูน้ำให้สอดคล้องกับระดับพื้นที่จริง

4.  ใช้ในระบบ “ไร่นาผสมผสาน” และ “เกษตรทฤษฎีใหม่”

• เช่น การขุดสระน้ำ, การยกระดับพื้นที่นาปลูกข้าว, พื้นที่ทำเลี้ยงปลา-ปลูกผัก
  
• ช่วยให้สามารถวางผังพื้นที่เกษตรกรรมได้แม่นยำตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง

5.  วางแปลงปลูกพืชบนพื้นที่ลาดเอียง

• วางแนวระดับเพื่อทำแปลงขั้นบันได ป้องกันการพังทลายของดิน
  
• ควบคุมการไหลของน้ำไม่ให้กัดเซาะพื้นที่เพาะปลูก
  

 ตัวอย่างงานภาคสนาม

ข้อดีของการใช้กล้องระดับในงานเกษตร

• ประหยัดเวลาและแรงงาน
  
• ลดปริมาณน้ำที่ใช้
  
• เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของดิน
  
• ช่วยวางผังพื้นที่แบบยั่งยืน