การใช้กล้องสำรวจในงานทางน้ำ
อัพเดทล่าสุด: 19 พ.ย. 2024
375 ผู้เข้าชม

การใช้กล้องสำรวจ (Total Station หรือ Theodolite) ในการวางแผนทางน้ำเป็นกระบวนการที่ช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับภูมิประเทศและลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบและพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับทางน้ำ เช่น การก่อสร้างคลอง ระบบระบายน้ำ หรือเขื่อน ขั้นตอนหลักของการใช้งานมีดังนี้
1. การวางแผนการสำรวจ
กำหนดขอบเขตพื้นที่สำรวจ: ระบุพื้นที่ที่ต้องการวางแผนทางน้ำ เช่น พื้นที่ชลประทาน หรือระบบระบายน้ำ
กำหนดจุดสำรวจ: เลือกจุดสำคัญในพื้นที่ เช่น จุดสูงต่ำ จุดเปลี่ยนทิศทางน้ำ หรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
2. การตั้งค่ากล้องสำรวจ
ติดตั้งกล้องบนขาตั้ง: ปรับให้กล้องอยู่ในตำแหน่งแนวระดับ (Leveling)
ตั้งค่าระบบพิกัด (Coordinates): อ้างอิงพิกัดจากจุดควบคุม (Control Points) เช่น ระบบ UTM ปรับโฟกัสกล้อง: เพื่อให้สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน
3. การเก็บข้อมูลภูมิประเทศ
วัดระดับความสูง (Elevation): ใช้กล้องสำรวจร่วมกับไม้วัดระดับ (Staff) เพื่อตรวจสอบระดับพื้นดิน
วัดระยะทาง (Distance): ใช้ฟังก์ชันการวัดระยะของกล้องสำรวจเพื่อคำนวณระยะทางระหว่างจุด
เก็บข้อมูลมุมและทิศทาง (Angles & Bearings): สำหรับการกำหนดเส้นทางน้ำที่ต้องการ
4. การประมวลผลข้อมูล
นำข้อมูลจากกล้องสำรวจมาประมวลผลในโปรแกรมออกแบบทางวิศวกรรม เช่น AutoCAD Civil 3D หรือ GIS
สร้างแผนที่ภูมิประเทศ (Topographic Map) หรือแบบจำลอง 3 มิติ (3D Model) ของพื้นที่
ระบุพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการวางทางน้ำหรือระบบระบายน้ำ
5. การออกแบบและวางแผน
ใช้ข้อมูลจากการสำรวจในการกำหนดตำแหน่งของโครงสร้างทางน้ำ เช่น ร่องน้ำ ท่อระบายน้ำ หรือเขื่อน วางแผนการก่อสร้างให้เหมาะสมกับลักษณะทางธรรมชาติ เช่น การจัดการกับพื้นที่ลาดชัน
ข้อดีของการใช้กล้องสำรวจในงานทางน้ำ ความแม่นยำสูงในการวัดระยะและความสูง ลดข้อผิดพลาดในการออกแบบ ประหยัดเวลาและทรัพยากร
1. การวางแผนการสำรวจ
กำหนดขอบเขตพื้นที่สำรวจ: ระบุพื้นที่ที่ต้องการวางแผนทางน้ำ เช่น พื้นที่ชลประทาน หรือระบบระบายน้ำ
กำหนดจุดสำรวจ: เลือกจุดสำคัญในพื้นที่ เช่น จุดสูงต่ำ จุดเปลี่ยนทิศทางน้ำ หรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
2. การตั้งค่ากล้องสำรวจ
ติดตั้งกล้องบนขาตั้ง: ปรับให้กล้องอยู่ในตำแหน่งแนวระดับ (Leveling)
ตั้งค่าระบบพิกัด (Coordinates): อ้างอิงพิกัดจากจุดควบคุม (Control Points) เช่น ระบบ UTM ปรับโฟกัสกล้อง: เพื่อให้สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน
3. การเก็บข้อมูลภูมิประเทศ
วัดระดับความสูง (Elevation): ใช้กล้องสำรวจร่วมกับไม้วัดระดับ (Staff) เพื่อตรวจสอบระดับพื้นดิน
วัดระยะทาง (Distance): ใช้ฟังก์ชันการวัดระยะของกล้องสำรวจเพื่อคำนวณระยะทางระหว่างจุด
เก็บข้อมูลมุมและทิศทาง (Angles & Bearings): สำหรับการกำหนดเส้นทางน้ำที่ต้องการ
4. การประมวลผลข้อมูล
นำข้อมูลจากกล้องสำรวจมาประมวลผลในโปรแกรมออกแบบทางวิศวกรรม เช่น AutoCAD Civil 3D หรือ GIS
สร้างแผนที่ภูมิประเทศ (Topographic Map) หรือแบบจำลอง 3 มิติ (3D Model) ของพื้นที่
ระบุพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการวางทางน้ำหรือระบบระบายน้ำ
5. การออกแบบและวางแผน
ใช้ข้อมูลจากการสำรวจในการกำหนดตำแหน่งของโครงสร้างทางน้ำ เช่น ร่องน้ำ ท่อระบายน้ำ หรือเขื่อน วางแผนการก่อสร้างให้เหมาะสมกับลักษณะทางธรรมชาติ เช่น การจัดการกับพื้นที่ลาดชัน
ข้อดีของการใช้กล้องสำรวจในงานทางน้ำ ความแม่นยำสูงในการวัดระยะและความสูง ลดข้อผิดพลาดในการออกแบบ ประหยัดเวลาและทรัพยากร
บทความที่เกี่ยวข้อง
กล้องระดับ (Automatic Level) คือเครื่องมือที่ใช้สำหรับหาความต่างระดับของพื้นที่และวางแนวระดับ และต้องอาศัย "ชุดอุปกรณ์มาตรฐาน"
19 ธ.ค. 2025
บทความนี้ให้คำตอบที่ใช้งานได้จริงว่าแบตเตอรี่กล้องสำรวจยุคใหม่สามารถ ชาร์จทิ้งข้ามคืนได้ เนื่องจากแท่นชาร์จมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ แต่เน้นย้ำถึงความปลอดภัย การใช้อุปกรณ์ของแท้ และการถอดปลั๊กเมื่อเต็มในเช้าวันถัดไป เพื่อ ยืดอายุแบตเตอรี่ และลดความเสี่ยงด้านอัคคีภัย
7 ต.ค. 2025


