กล้องระดับในงานบำรุงรักษาถนนเก่า: วัดจุดทรุดง่าย ๆ ก่อนซ่อม

กล้องระดับในงานบำรุงรักษาถนนเก่า: วัดจุดทรุดง่าย ๆ ก่อนซ่อม ️

ถนนเก่าที่ผ่านการใช้งานมานานย่อมเกิดการทรุดตัวหรือเป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ การจะซ่อมแซมถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดงบประมาณ จำเป็นต้องรู้ว่าจุดใดบ้างที่ทรุดตัวไปจากระดับเดิม และ กล้องระดับ (Auto Level) ก็เป็นเครื่องมือที่ง่ายและแม่นยำที่สุดสำหรับงานนี้

ทำไมต้องใช้กล้องระดับวัดจุดทรุด?

การมองด้วยตาเปล่าหรือใช้เครื่องมือวัดทั่วไปอาจไม่สามารถระบุค่าความสูงที่เปลี่ยนแปลงไปในระดับมิลลิเมตรได้ การใช้กล้องระดับจะช่วยให้:

• ระบุจุดที่มีปัญหาได้ชัดเจน: สามารถหาตำแหน่งที่เป็นแอ่งหรือจุดที่นูนขึ้นมาได้อย่างแม่นยำ
• ประเมินปริมาณวัสดุ: สามารถคำนวณปริมาณยางมะตอยหรือคอนกรีตที่ต้องใช้ในการซ่อมแซมได้อย่างถูกต้อง
• ควบคุมงบประมาณ: เมื่อรู้ปริมาณวัสดุที่ต้องใช้ ก็จะสามารถวางแผนงบประมาณในการซ่อมแซมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการใช้กล้องระดับวัดจุดทรุดบนถนนเก่า

1. กำหนดจุดอ้างอิง (Benchmark):

   ขั้นแรกคือการหาจุดอ้างอิงที่มีค่าระดับความสูงที่มั่นคงและไม่เปลี่ยนแปลง . ควรเลือกจุดที่อยู่บนโครงสร้างที่แข็งแรง เช่น ขอบฟุตปาธ, ฝาท่อระบายน้ำ หรือเสาไฟที่อยู่ใกล้เคียง

2. ตั้งกล้องและหาค่า HI:

   ตั้งกล้องระดับบนขาตั้งให้มั่นคงในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นพื้นที่ถนนที่ต้องการสำรวจได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำไม้สต๊าฟไปวางบนจุด Benchmark และอ่านค่าจากกล้องเพื่อหาค่า HI (Height of Instrument) หรือความสูงของระดับสายตาของกล้อง

   สูตร: HI = ค่าระดับ Benchmark + ค่าที่อ่านได้จากไม้สต๊าฟ

3. สำรวจและวัดค่าระดับของพื้นผิวถนน:
   • วางไม้สต๊าฟในจุดต่าง ๆ บนถนนที่คาดว่ามีการทรุดตัว เช่น บริเวณที่มีน้ำขัง หรือบริเวณที่รถวิ่งผ่านบ่อย ๆ โดยอาจกำหนดจุดวัดทุกระยะ 2-3 เมตร
   • อ่านค่าจากไม้สต๊าฟและบันทึกค่าที่ได้ลงในสมุดบันทึก
   • การคำนวณค่าระดับของจุด: ค่าระดับของจุด = HI - ค่าที่อ่านได้จากไม้สต๊าฟ
4. วิเคราะห์ผล:

   นำค่าระดับที่วัดได้มาเปรียบเทียบกับค่าระดับที่กำหนดไว้ในแบบแปลนเดิม (ถ้ามี) หรือใช้ค่าจากจุดที่ได้ระดับปกติเป็นค่าอ้างอิง หากค่าที่ได้ต่ำกว่าค่าอ้างอิงมาก แสดงว่าจุดนั้นมีการทรุดตัว หากค่าที่ได้สูงกว่า แสดงว่าเป็นจุดที่นูนขึ้นมา

สรุป

การใช้ กล้องระดับ ในงานบำรุงรักษาถนนเก่าช่วยให้การซ่อมแซมเป็นไปอย่างมีระบบและตรงจุด การระบุตำแหน่งและปริมาณการทรุดตัวได้อย่างแม่นยำจะช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถวางแผนการซ่อมได้อย่างถูกต้อง ทำให้ถนนกลับมาอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานอีกครั้ง